สำนักข่าวอิรวดีรายงานเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า โรงพยาบาลรัฐในพม่าเริ่มเปิดโอกาศให้ประชาชนที่มีฐานะยากจนสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลฟรี นับเป็นปรากฎการครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งขัดแย้งกับนโยบายของรัฐบาลทหารในอดีตที่ทางโรงพยาบาลรัฐเก็บค่ารักษา ค่ายาและค่าอุปกรณ์การแพทย์ทั้งหมดจากผู้ป่วย
มีรายงานว่า โรงพยาบาลรัฐเริ่มที่จะรักษาพยาบาลฟรีแก่คนยากจนหลังจากที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุขของพม่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมากขึ้น โดยโรงพยาบาลได้รับความช่วยเหลือด้านยารักษาโรคและอุปกรณ์การแพทย์เป็นครั้งแรก
ดร.ซอทุน จากโรงพยาบาลส่านเปี้ย ในย่างกุ้ง เปิดเผยว่า ขณะนี้พม่าไม่เพียงแต่ปฏิรูปประเทศและเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังปฏิรูปในด้านสาธารณสุขด้วย โดยยังเปิดเผยว่า กระทรวงสาธาณสุขนั้นได้รับงบสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้สามารถนำงบเหล่านี้มาสนับสนุนโรงพยาบาลต่อ
ในอดีตนั้น รัฐบาลกลางเป็นผู้ซื้อยาและอุปกรณ์การแพทย์ทั้งหมด จากนั้นจึงแจกจ่ายให้กับตามโรงพยาบาลต่างๆ โดยพบว่า โรงพยาบาลนั้นไม่มีงบจัดซื้ออุปกรณ์และยาแต่อย่างใด ดังนั้นทำให้ผู้ป่วยที่มารักษาตัวยังโรงพยาบาลรัฐต้องจ่ายเงินในส่วนนี้ทั้งหมด ทาง ดร.ซอทุนยังเปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว เนื่องจากทางโรงพยาบาลมีงบสำหรับซื้อยาและอุปกรณ์การแพทย์ ทำให้สามารถรักษาฟรีแก่คนไข้ที่มีฐานะยากจน โดยขณะนี้โรงพยาบาลส่านเปี้ยเองก็ได้ให้การรักษาฟรีคิดเป็น ราวครึ่งหนึ่งของคนไข้ทั้งหมดที่มารักษาตัว
ดร.ซอทุนยังเปิดเผยว่า งบประมาณที่แต่ละโรงพยาบาลได้รับนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของโรงพยาบาล อย่างเช่นโรงพยาบาลส่านเปี้ย ซึ่งมีเตียงคนไข้ 300 เตียงนั้นได้รับงบประมาณช่วยเหลืออยู่ที่ 120 ล้านจั๊ตหรือราว 126,000 ดอลลาร์สหรัฐ(ราว 3,848,040) ในปี 2555 -2556 นี้ โดยทางโรงพยาบาลของเขาเริ่มรักษาฟรีให้แก่คนไข้ยากจนาตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และในวันที่ 14 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ผู้อำนวยการจากทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศจะเดินทางไปพบกับรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของพม่าเพื่อหารือกันถึงเรื่องงบประมาณ
ดร.ซอทุนยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า เขาไม่แน่ใจว่าเป้าหมายที่แท้จริงของรัฐบาลคือการรักษาพยาบาลฟรีให้กับประชาชนทั้งหมดหรือไม่ แต่ระบุว่า ขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขของพม่ากำลังศึกษาความเป็นไปได้เรื่องระบบประกันสุขภาพให้กับประชาชนในประเทศ
ทั้งนี้ ในช่วงยุคภายใต้รัฐบาลเผด็จการทหาร เช่นในปี 2550 ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขพม่าพบว่า ประชาชนต่อ 1 คนได้รับเงินช่วยเหลือด้านสุขภาพไม่ถึง 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ทางกระทรวงสาธารณสุขของพม่าระบุว่า เป้าหมายต่อจากนี้ไปอีก 30 ปี พม่าต้องการพัฒนาระบบด้านสุขภาพ โดยมีเป้าหมายบรรลุถึงระบบสุขภาพถ้วนหน้าในปี 2573
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน ติ่น เมียว วิน ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของพม่ากล่าวว่า ถึงแม้ว่า รัฐบาลจะเพิ่มงบให้กับทางด้านสุขภาพมากขึ้น แต่เมื่อดูตัวเลขแล้วพบว่า งบประมาณที่ให้กับทางด้านสุขภาพอยู่ที่ 3 เปอร์เซ็นต์จเท่านั้น จากงบประมาณทั้งหมดของประเทศ ซึ่งนั่นยังไม่เพียงพอ
แปลและเรียบเรียงจาก Irrawaddy
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น