วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555
พบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในรัฐคะฉิ่นเพิ่มขึ้น
พบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในรัฐคะฉิ่นเพิ่มขึ้น โดยมีชาวคะฉิ่นกว่าร้อยคนถูกตั้งข้อหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพ KIA โดยทั้งหมดกำลังถูกกุมขังอย่างผิดกฎหมายและเสี่ยงที่จะถูกทางกองทัพพม่าทำร้ายร่างกาย
ซันอ่อง ผู้ประสานการเจรจาสันติภาพระหว่างกองทัพพม่าและองค์กรอิสระคะฉิ่น หรือ KIO (Kachin Independence Organization) เปิดเผยกับสำนักข่าวอิรวดีว่า มีชาวบ้านในพื้นที่หายตัวไปอย่างลึกลับอย่างต่อเนื่อง โดยเรื่องนี้ได้ถูกนำขึ้นรายงานไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในเมืองมิตจีนาแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเรื่องนี้กลับไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควรจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยซันอ่องเปิดเผยว่า ยอดตัวเลขชาวบ้านในรัฐคะฉิ่นที่ถูกจับกุมตัว เพราะถูกสงสัยว่าเชื่อมโยงและสนับสนุนกองทัพคะฉิ่นนั้นเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว
ขณะที่ชาวบ้านคนหนึ่งเปิดเผยความรู้สึกว่า การจับกุมชาวบ้านตามใจชอบของทางการพม่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและยิ่งทำให้ประชาชนในรัฐคะฉิ่นไม่เชื่อใจรัฐบาลและกองทัพพม่ามากยิ่งขึ้นเท่านั้น ขณะที่เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีชาวคะฉิ่นกว่า 1,500 คน ได้รวมตัวในเมืองมิตจีนา เพื่อเรียกร้องให้ทางการพม่าปลอยตัวชายคะฉิ่นคนหนึ่งชื่อ "บรางเฉ่า" หลังจากที่เขาถูกจับกุมตัวตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากทางการพม่าสงสัยว่าเขาเชื่อมโยงกับกองทัพ KIA ด้าน ลานัน โฆษกของกองทัพ KIA ระบุว่า นายอู อองมิน ผู้นำเจรจาสันติภาพกับชนกลุ่มน้อยเป็นบุคคลที่ไว้ใจไม่ได้
อีกด้านหนึ่ง สมาคมสตรีคะฉิ่นแห่งประเทศไทย (The Kachin Women’s Association Thailand -KWAT) เปิดตัวสารคดีเและแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์ของผู้หญิงและเด็กในรัฐคะฉิ่น เนื่องจากพบว่า มีผู้หญิงราว 60 คน ถูกข่มขืนและถูกทหารพม่าสังหาร โดยในสารคดีแสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงในรัฐคะฉิ่นบางคนถูกทหารพม่าสังหารอย่างเหี้ยมโหด ซึ่ง KWAT แสดงความกังวลว่า หากสถานการณ์ในรัฐคะฉิ่นยังไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว นอกจากผู้หญิงจะถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนมากขึ้น จะทำให้เด็กในพื้นที่สู้รบต้องขาดโอกาสทางการศึกษา และสงครามอาจทำให้เด็กต้องกำพร้าพ่อแม่มากขึ้น ในอีกด้านหนึ่ง ผู้หญิงชาวคะฉิ่นอาจต้องกลายเป็นม่ายเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากสามีของพวกเธอถูกเกณฑ์ไปแนวหน้าและเป็นลูกหาบให้กับกองทัพพม่า ซึ่งอาจต้องจบชีวิตลงในสนามรบ
ที่มา KNG /Irrawaddy /ภาพโดย Jai Jai 31 กรกฎาคม 55
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น