ย่างกุ้ง - เหยื่อผู้ถูกยึดที่ดินในพม่าได้ออกมาประเดิมเสรีภาพใหม่โดยการเดินขบวนประท้วงและยื่นคำร้องเรียนไปยังประธานาธิบดีและสภา แต่ก็ไม่เป็นผล ล่าสุดได้หันมาใช้วิธีแบบดั้งเดิมโดยการสาบแช่งและพึ่งพาไสยศาสตร์
บรรดาโลงศพมีป้ายชื่อผู้ที่ยึดที่ดินชาวบ้านถูกจุดไฟเผา ชาวบ้านในแถบภาคกลางของพม่าได้ออกมาสวดอ้อนวอนเทพแห่งขุนเขา
"นี่คืออาวุธชิ้นสุดท้ายของเรา" เส่ง ตาน หนึ่งในเหยื่อจำนวน 200 ครอบครัวที่ถูกขับออกจากหมู่บ้านที่มิชองคาน ทางตะวันออกของย่างกุ้ง ที่บรรพบุรุษของพวกเขาอยู่อาศัยมาหลายต่อหลายรุ่น เขาและเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกกว่าสิบคนได้ทำการเซ่นไหว้และอ้อนวอนขอต่อภูตผี
"ลงโทษคนที่ขโมยที่ทำกินและเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราไป" พวกเขาร้องตะโกนอยู่หน้าวัดแห่งหนึ่ง "ลากคอพวกมันลงไปในภพภูมิที่ต่ำสุดและขังพวกมันไว้ตลอดกาล"
การยึดที่ดินประชาชนโดยรัฐบาลและบริษัทเอกชนที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลทหารได้เกิดขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันในพม่า ไม่ว่าจะเพื่อโครงการพัฒนาหรือการชุดเจาะเอาทรัพยากรธรรมชาติ
ผู้ที่สูญเสียที่ดินจำนวนมากในการยึดที่ดินครั้งใหญ่ในช่วงปี 1990 ถูกย้ายไปอยู่ในพื้นที่ห่างไกล บางส่วนต้องกลายเป็นผู้บุกรุกที่ดินของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตให้ทำการเกษตรต่อถ้าจ่ายค่าเช่า บ้านของชาวนาบางส่วนที่ยืนกรานไม่ย่ายออกไปถูกทำลายด้วยรถไถ
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งได้ปิดฉากการปกครองแบบเผด็จการทหารที่มีมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษลง เมื่อปี 2011 ได้คืนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นให้กับประชาชน ได้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองจำนวนมาก และมีการเปลี่ยนแปลงอีกมากมายทำให้นานาชาติได้ผ่อนปรนการคว่ำบาตรลง ในขณะที่เหยื่อการยึดที่ดินได้ฝากความหวังไว้กับรัฐบาลชุดใหม่ที่จะมาช่วยเหลือพวกเขา แต่ทว่า การขับไล่ประชาชนออกจากที่ทำกินก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่จนถึงทุกวันนี้
ผู้ที่ท้าทายระบบการปกครองใหม่บางส่วนถูกตั้งข้อหาก่อกวนความสงบเรียบร้อยหรือไม่ก็ตั้งข้อหาฐานละเมิดกฎหมายรักษาความสงบ มีโทษสูงสุดถึงจำคุก 2 ปี
เส่ง ตาน และครอบครัวอื่นๆ จากมิชองคานได้เข้าร่วมเดินขบวนประท้วงกับผู้ถูกยึดที่ดินจากที่อื่นๆ หน้าศาลากลางในย่างกุ้ง พวกเขาทำการประท้วงมาเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว แต่ก็มีทางเลือกเหลือน้อยลงทุกที บางคนต้องอาศัยสิ่งลี้ลับเป็นที่พึ่งสุดท้าย
พม่าเป็นประเทศที่คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ แต่การบูชาภูตผีเทพเจ้าและวิญญาณ ก็ยังคงอยู่และฝังรากลึกอยู่ในสังคม ผู้คนบูชาภูตผีวิญญาณเพื่อปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายและเพื่อโชคลาภ ความเชื่อในไสยศาสตร์และพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติยังพบเห็นได้ทั่วไปโดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลและพื้นที่กลุ่มชาติพันธุ์
การที่จะพบเห็นผู้คนใช้ไสยศาสตร์เข้าต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการทหารชุดก่อนไม่ใช่เรื่องแปลก ขนาดผู้นำพม่าหลายคนยังต้องพึ่งหมอดูเพื่อขอคำแนะนำ ซึ่งก็แทบไม่เห็นว่ามีใครที่ไม่พอใจคำแนะนำเหล่านั้น
จากย่างกุ้งขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 200 กม. ชาวนาในตีโกง ภาคพะโค ได้ไปรวมตัวกันที่สุสานแห่งหนึ่งเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา เผาโลงศพ 3 โลง เพื่อสาบแช่งผู้ที่ยึดที่ดินของพวกเขาซึ่งเป็นพื้นที่ถึง 1000 เอเคอร์ พวกเขาสาบแช่งให้คนพวกนั้นให้ต้องรับความเจ็บปวดเหมือนอย่างที่พวกเขาได้รับ
ที่ภาคมะกวย ภาคกลางของประเทศ ชาวบ้านหลายร้อยตนต้องพลัดถิ่นที่อยู่อาศัยจากโครงการก่อสร้งเหมืองทองแดง ซึ่งชาวบ้านที่นั่นก็ได้ทำพิธีเรียกภูติผีวิญญาณที่ปกปัการักษาขุนเขาให้มาลงโทษผู้ที่กระทำกับชาวบ้าน
กลุ่มผู้หญิงได้เข้าไปศาลเจ้าท้ายหมู่บ้านเว็ทมวยเพื่อร้องขอให้เทพที่ปกปักษ์รักษาขุนเขาทั้ง 33 แห่งให้ผู้ที่ยึดที่ดินของพวกเขากลายเป็นหิน พวกเธอถือตระกร้าที่เต็มไปด้วยของเซ่นไหว้เช่น มะพร้าว กล้วย ชาหมัก และบุหรี่มวนโต
"เราได้ยื่นคำร้องไปที่รัฐบาลหลายระดับแล้ว เราได้ยื่นคำร้องไปที่บริษัทด้วย แต่ความต้องการของพวกเราก็ไม่ได้รับคำตอบจนถึงตอนนี้" ตานตานทวย ชาวบ้านจากหมู่บ้านโตน กล่าว เขาถูกบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทของรัฐบาลพม่ากับบริษัททำเหมือง Wanbao จากจีน ยึดที่ดินไป 4 เอเคอร์เพื่อทำเหมืองแร่
"เราต้องหันมาพึ่งพาภูตผีวิญญาณอย่างไร้ความหวัง และเชื่อว่าคนชั่วร้ายจะต้องถูกลงโทษ"
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว มีองค์กร 5 องค์กรที่เผาโลกศพสาบแช่ง ถูกตั้งข้อหาก่อกวนความสงบเรียบร้อย
จาก Burma Land Grab Victims Turn to Black Magic
Irrawaddy 26 พค 57
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น