รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและโรงแรมของพม่าได้ส่งจดหมาย ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2555 ถึงผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวในพม่าว่า ไม่อนุญาตให้ท่องเที่ยวในหลายเมืองของรัฐอาระกัน และมีคำสั่งในเชิงว่าไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปเที่ยวในสถานที่ที่ทางการระบุด้วย ซึ่งทางผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงตั้งข้อสงสัยในคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากไม่มีความชัดเจน
ขณะที่ในจดหมายระบุว่า เหตุที่ทางการไม่อนุญาตให้ท่องเที่ยวในสถานที่ดังกล่าว สืบผลมาจากสถานการณ์ในรัฐอาระกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อไหร่ที่มีการท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าวได้ ทางการจะแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบอีกที ด้านผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวเปิดเผยว่า ยังไม่มีความแน่ชัดว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะถูกห้ามท่องเที่ยวในรัฐอาระกันด้วยเหรือไม่
“ข้อความในจดหมายดังกล่าวเขียนให้เข้าใจยาก เนื่องจากไม่ระบุชัดเจนว่า ใครบ้างที่ไม่อนุญาตให้ไปเยี่ยมในสถานที่ที่ทางการระบุ ซึ่งเราเข้าใจว่าเป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากทราบดีอยู่แล้วว่า ทางการคงไม่สามารถห้ามนักท่องเที่ยวในประเทศไปเที่ยวสถานที่ดังกล่าวได้่” เจ้าหน้าที่ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวรายหนึ่งกล่าว
ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวแสดงความเป็นห่วงว่า คำสั่งห้ามดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างหนักธุรกิจโรงแรมในรัฐอาระกัน เนื่องจากใกล้ถึงฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว มีข้อมูลว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนในปีนี้ มีผู้มาท่องเที่ยวในรัฐอาระกันเพิ่มขึ้นถึง 65 เปอร์เซ็นต์ โดยมีนักท่องเที่ยวถึง 40,701 คน เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25,770 คน และนักท่องเที่ยวภายในประเทศ 14,931 คน ขณะที่ในรัฐอาระกัน มีโรงแรมทั้งหมด 30 แห่ง
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่ทางการพม่าระบุไม่อนุญาตให้เที่ยวได้แก่เมืองชิตต่วย สถานที่ท่องเที่ยวเมืองโบราณอย่างเมืองมรัคอู เวสาลีเป็นต้น ซึ่งสาเหตุที่รัฐบาลไม่อนุญาตน่าจะกลัวว่า ะมีชาวต่างชาติเข้ามาในรัฐอาระกันในคราบนักท่องเที่ยวและเข้ามาสืบสวนเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐอาระกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น