วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ต้นน้ำอิระวดี : มนต์เสน่ห์ที่เลือนหายเพราะเขื่อน

Myitson 2

มิตซง, รัฐคะฉิ่น-แสงคุณ นั่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิระวดี เธอละจากงานของเธอชั่วคราวเพื่อชี้ให้ดูสัญลักษณ์ไม้กางเขนสีขาว "บนเขาลูกนั้น เราเคยไปอธิษฐานกันทุกเช้า มันเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญมากสำหรับเรา เราให้ความเคารพมาก เรายังมีโครงการจะสร้างโบสถ์ที่นั่นด้วย" เธอกล่าว แสงคุณนับถือศาสนาคริสต์เช่นเดียวกับชาวคะฉิ่นส่วนใหญ่

 

ทว่า แผนการสร้างโบสถ์ที่ว่าต้องล้มเลิกไปเมื่อหลายปีมาแล้ว เมื่อบริษัทจากจีนได้เข้ามาดำเนินการก่อสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดยักษ์บนแม่น้ำสายนี้ "พวกเขายึดที่ดินของเราไป" เธอกล่าว ขณะกำลังตั้งร้านแผงขายเครื่องดื่มและขนมริมแม่น้ำอิระวดี "พวกเขาบังคับให้เราออกไป"

 

เขื่อนมิตซงมีแผนในการก่อสร้างในพื้นที่ที่เป็นสบน้ำระหว่างแม่น้ำสองสาย คือแม่น้ำเมขะ และแม่น้ำมะลิขะ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำอิระวดี มีการก่อผนังคอนกรีตไปแล้วบางส่วนแต่ยังไม่แล้วเสร็จ ก่อนที่โครงการดังกล่าวจะถูกระงับไปเมื่อปี 2011 โดยประธานาธิบดีเนื่องจากการประท้วงของประชาชนในพื้นที่

 

ครั้งหนึ่งพื้นที่มิตซงที่เป็นสบน้ำเคยเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง เนื่องจากมีชายหาดธรรมชาติที่เป็นหินและภูเขาที่สวยงาม แต่ในวันนี้ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าแทบไม่มีนักท่องเที่ยวให้เห็นอีกแล้ว

 

ขิ่นหม่อง ชาวบ้านในเมืองมิตจีนา เมืองหลวงของรัฐคะฉิ่นยังจำได้ดีถึงตอนที่เขาเดินทางไปที่แม่น้ำอิระวดีตอนที่เป็นเด็ก "ความสวยงามของแม่น้ำอิระวดีนั้นน่าทึ่งมาก เมื่อ 50 ปี ที่แล้วตอนที่เราเป็นเด็ก มีนกยูงอาศัยอยู่บนภูเขา มันจะบินไปที่แม่น้ำอิระวดีเมื่อได้ยินเสียงเรือ"

 

"แต่ตอนนี้แม่น้ำอิระวดีไม่มีนกยูงแล้ว เมื่อก่อนน้ำสะอาดมาก แต่ตอนนี้คุณจะเห็นแต่น้ำขุ่นๆ"

 

หลายครอบครัวในพื้นที่มิตซงต้องออกจากหมู่บ้านไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่รัฐบาลจัดให้ตั้งแต่ปี 2010 และ 2011 ก่อนที่โครงการก่อสร้างเขื่อนจะถูกระงับไป ที่หมู่บ้านอ่องมิ้นท์ตาร์ ชาวบ้านที่อพยพมาอยู่ใหม่เปิดเผยว่าพวกเขาไม่สามารถดำเนินเป็นชาวนาเหมือนเดิมได้

 

"ที่อ่องมิ้นท์ตาร์ เราไม่สามารถปลูกพืชอะไรได้" แสงคุณ กล่าว "เราปลูกไม่ได้แม้กระทั่งต้นกล้วย ดินที่นี่มีแต่ก้อนหิน ใต้ดินก็เป็นหิน เพราะอย่างนี้ฉันจึงต้องเดินทางมาขายขนมและเครื่องดื่มที่นี่ทุกวันเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง "

 

ในเขตพื้นที่มิตซงยังเต็มไปด้วยแร่ทองคำ บนตลิ่งน้ำอิระวดีจึงเห็นชาวบ้านมาขุดร่อนทองกันโดยใช้เครื่องมืออุปกรณ์ดั้งเดิม ชาวบ้านจะขุดทรายจากแม่น้ำและนำไปใส่บนแผ่นพลาสติกที่ติดอยู่กับกรอบไม้ไผ่ จากนั้นจึงใช้น้ำช่วยในการร่อนหาผงทองคำ

 

จุดที่เคยมีแผนจะสร้างโบสถ์เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีทองคำมาก "แต่ตอนนี้ที่นั่นอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างเขื่อน บริษัทจีนเอาไปแล้ว พวกเขาขุดดินไปแล้ว เราได้ยินว่าพวกเขาขุดเจอทองจำนวนมาก" แสงคุณ บอก

 

ฮองระ เพื่อนบ้านชาวลีซูของแสงคุณที่หมู่บ้านอ่องมิ้นท์ตาร์ ทำงานขุดร่อนทองที่แม่น้ำอิระวดี "เราได้เงิน 5,000-6,000 จั๊ต (150 - 180 บาท)ต่อวัน หลังจากที่ขายทองแล้ว" เธอบอก "เราใช้มือขุด จึงได้ไม่เยอะ ตอนที่คนจีนเข้ามา เขาใช้เครื่องจักร ได้ทองไปวันละหลายตัน"

 

เนื่องจากโครงการก่อสร้างเขื่อนถูกระงับไป คนจีนที่เข้ามาขุดทองและพวกวิศวกรก็ได้ออกไปจากพื้นที่ดังกล่าวแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยพื้นที่โครงการยังคงอยู่ที่นี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่หน้าจุดตรวจบนถนนที่มุ่งหน้าไปสู่พื้นที่ก่อสร้าง และไม่อนุญาตให้ใครเข้าไป

 

ชาวบ้านในพื้นที่เผิดเผยว่า พวกเขาไม่เคยได้รับค่าชดเชยที่เป็นธรรมสำหรับที่ดินของพวกเขา

"เราไม่ได้ค่าชดเชยทั้งหมดตามที่บริษัทจีนเคยให้สัญญาไว้ พวกเขาบอกว่าต้องหยุดจ่ายเงินชดเชยไปก่อนเพราะโครงการก่อสร้างถูกระงับ" แสงคุณกล่าว

 

เขื่อนมิตซงขนาด 6000 เมกกะวัตต์ดำเนินการก่อสร้างโดยบริษัท Chinese Power International หรือ CIP ของรัฐบาลจีน ทั้งนี้โครงการดังกล่าวถูกระงับโดยรัฐบาลพม่าเมื่อเดือนกันยายน 2011 ที่ผ่านมา หลังจากประชาชนออกมาประท้วงเนื่องจากส่งผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

 

ประธานาธิบดีเต็งเส่ง กล่าวว่า จะไม่มีการรื้อฟื้นการก่อสร้างขึ้นมาอีกในสมัยของเขา ในขณะที่จีนหวังว่า ในที่สุดแล้วจะสามารถดำเนินการต่อ ซึ่งมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของ CPI กลุ่มเล็กๆ ส่วนหนึ่งยังอยู่ในพื้นที่ก่อสร้าง

 

จาก Natural Beauty Blighted by Myitsone Dam, Locals Say โดย SAW YAN NAING / THE IRRAWADDY

7 พฤศจิกายน 2556

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น