วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

UNOCHA เตรียมสนับสนุนเงืนช่วยเหลือ 190 ล้านดอลลาร์ ช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นภายในจากพม่า

kachin-idp-3_0


สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ The UN Office for the Coordination of Humanitarian Affairs (UNOCHA) ได้ออกมาประกาศเตรียมจะสนับสนุนช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นภายใน(IDP) 536,000 คน ซึ่งคิดเป็นประชากร 1 เปอร์เซ็นต์ของประเทศพม่า โดยจะสนับสนุนเงินช่วยเหลือราว 190 ล้านดอลลาร์ในปีหน้า


 ทั้งนี้ ทาง UNOCHA ประจำในพม่า วางแผนที่จะช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นภายใน ในรัฐอาระกัน 416,600 คน และผู้พลัดถิ่นภายใน ในรัฐคะฉิ่นอีก 119,800 คน ในปีหน้า ทั้งนี้ เงินสนับสนุนช่วยเหลือประมาณ 65 เปอร์เซ็นต์ จากเงินช่วยเหลือ 190 ล้านดอลลาร์นั้น จะถูกนำมาช่วยเหลือในด้านการรักษาความปลอดภัย น้ำดื่มสะอาด สุขอนามัย การศึกษา และความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาล


ทางด้าน Pierre Péron โฆษกประจำสำนักงาน UNOCHA ในย่างกุ้ง เปิดเผยว่า ทาง UNOCHA นั้นได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับรัฐบาลพม่าและองค์กรเอ็นจีโอ เพื่อนำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาทุกข์ไปช่วยเหลือแก่ผู้พลัดถิ่นภายในที่ต้องการความช่วยเหลือยังค่ายศูนย์พักพิงของผู้พลัดถิ่นภายในตามที่ต่างๆ นอกจากนี้ยังระบุว่า ราวครึ่งหนึ่งของผู้พลัดถิ่นภายใน ที่อาศัยอยู่ในรัฐคะฉิ่น และทางภาคเหนือของรัฐฉานไม่ได้อยู่ในพื้นที่ควบคุมของรัฐบาลพม่า และถูกจำกัดการได้รับความช่วยเหลือ


ทางด้าน ดอย พยีซา ประธานคณะกรรมการผู้ลี้ภัยคะฉิ่น เปิดเผยว่า ความช่วยเหลือให้กับผู้พลัดถิ่นภายในชาวคะฉิ่น ที่อยู่ในเขตควบคุมของทหารคะฉิ่น KIA หยุดชะงักมาตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ ซอซอ สมาชิกคณะกรรมการผู้พลัดถิ่นชาวมุสลิมในรัฐอาระกัน เปิดเผยเช่นกันว่า ผู้พลัดถิ่นภายในที่อาศัยอยู่ในรัฐอาระกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมโรฮิงยานั้นไม่ได้รับความช่วยเหลือมาเป็นระยะเวลา 8 เดือนแล้ว มีเพียงหน่วยงาน อย่าง โครงการอาหารโลก(WFP) เท่านั้น ที่ช่วยเหลือในด้านอาหาร เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช ถั่วและเกลือ


ซอซอ ยังระบุว่า ขณะนี้ผู้พลัดถิ่นภายใน จากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางด้านศาสนาในรัฐอาระกัน ที่อาศัยอยู่ในค่ายพักพิงกำลังเผชิญกับปัญหา ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ ซึ่ง ซอซอ ระบุว่า ทำให้มีความยากลำบากในการดำรงชีพ โดยยังแสดงความเป็นห่วงว่า จะเกิดโรคขาดสารอาหารในค่ายผู้พลัดถิ่นเหล่านี้


 

แปลและเรียบเรียงจาก DVB

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น