วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556

“ย่างกุ้ง” ฤาจะไม่มีที่สำหรับคนจน

homeless

ค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่ทะยานสูงขึ้นในย่างกุ้ง ซึ่งเป็นเมืองหลวงทางเศรษฐกิจของพม่า ได้ส่งผลให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยหลายร้อยครอบครัวไร้ที่อยู่ พวกเขาต้องอาศัยที่วัดอยู่เพราะมิเช่นนั้นอาจต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน

 

การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนับตั้งแต่รัฐบาลพลเรือนเข้าปกครองประเทศเมื่อปี 2011 ทำให้มีการระงับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและมีการลงทุนในประเทศมากขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็ได้ส่งผลกระทบทำให้คนจนไม่มีที่อยู่อาศัย

 

“ทุกครอบครัวที่มาอยู่ที่นี่บอกเหมือนกันว่าพวกเขาไม่มีที่อยู่ ไม่ทีอะไรจะกิน และต้องการความช่วยเหลือ” ขิ่นซานอู วัย 61 ปี ผู้ดูแลศูนย์ที่พักอาศัยชั่วคราวสำหรับคนไร้ที่อยู่ในวัดแห่งหนึ่งในชายเมืองย่างกุ้ง กล่าว

 

โดยพระโอตะมะสาระ เจ้าอาวาสศูนย์ปฏิบัติธรรม “ตะบาวะ” ได้บริจาคที่ดิน 30 เอเคอร์ (ประมาณ 75 ไร่) ให้เมื่อเกือบสองปีที่แล้ว เมื่อชาวบ้านที่ยากจนจากย่างกุ้งและพื้นที่ใกล้เคียงทราบข่าวที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วก็มากันมาอยู่ที่นี่ ปัจจุบันมีประชาชนมาสร้างบ้านพักอาศัยอยู่มากกว่า 2,400 ครอบครัว ส่วนครอบครัวที่ไม่มีเงินสร้างบ้านก็สามารถอยู่ในหอพักไม้ไผ่ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม

 

ความต้องการที่ดินในประเทศสูงขึ้นหลังจากพม่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีผู้ไร้อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราค่าเช่าในพื้นที่ที่มีผู้มีรายได้น้อยเพิ่มขึ้นทั้งในและพื้นที่โดยรอบๆ ย่างกุ้ง ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุด

 

ตัวเลขจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์แสดงให้เห็นถึงค่าเช่าอพาร์ทเมนต์ห้องเล็กๆ ในย่างกุ้งเพิ่มขึ้นกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ขณะที่ราคาขายเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า หรือสามเท่าในบางพื้นที่ในช่วงสองปีมานี้

 

 

ติ่น ติ่น วิน หญิงวัย 57 ปี ถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องมาอาศัยอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้พร้อมกับสามี ลูกสาว ลูกชาย และหลานอีก 2 คน หลังครอบครับของเธอถูกบีบให้จ่ายเงินล่วงหน้า 6 เดือนเพื่อต่อสัญญาเช่าบ้าน

 

“มีการขึ้นค่าเช่าบ้านหลายครั้ง เราไม่มีเงินพอที่จะเช่าบ้านได้ เพราะเหตุนี้พวกเราจึงต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ ” เธอกล่าว เธอบอกว่า เธอรู้สึกปลอดภัย แม้จะไม่ค่อยสะดวกสบายและคับแคบไปหน่อย

 

“ลูกสาวของฉันบอกว่า ให้เราอยู่ที่นี่ไปสักพักหนึ่งก่อน เพราะเธอยังหาที่อยู่ใหม่ไม่ได้” เธอพูด พลางเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

 

ประธานาธิบดีเต็งแส่ง ต้องการแก้ไขปัญหาความยากจนในประเทศซึ่งเป็นส่วนสำคัญในหารปฏิรูปประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลเผด็จการทหารชุดก่อนไม่เคยแยแส มีแต่คอรัปชั่นในตลอดระยะเวลาที่ปกครองประเทศมาหลายสิบปีที่ผ่านมา ทว่า ในตอนนี้นับว่ายังห่างไกลจากเป้าหมายนัก

 

ในย่านธุรกิจของย่างกุ้ง ซึ่งเป็นเมืองที่มีระบบการเชื่อมต่อการเดินทางที่แย่นั้น คอนโดมิเนียมสมัยใหม่บางแห่งที่มีอินเทอร์เน็ตบริการ แต่มีไฟฟ้าติดๆ ดับๆ มีราคาสูงถึง 700 ดอลลาร์ (21,000 บาท) ต่อตารางฟุต สูงกว่ากรุงเทพหลายเท่า ซึ่งองค์กรและบริษัทต่างประเทศต่างเกรงว่า นี่อาจเป็นอุปสรรคทำให้นักลงทุนต่างประเทศไม่เข้ามาลงทุนในพม่าและอาจเกิดวิกฤษฟองสบู่ได้

 

“คนทั้งโลกรู้ว่าราคาที่ดินที่นี่ (ย่างกุ้ง) แพงมาก” ตานอู วัย 64 ปี ผู้จัดการบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Mandaing บอกกับสำนักข่าว AFP เขาบอกว่า หลายครอบครัวต้องย้ายไปอยู่นอกเมืองเพราะค่าเช่าที่แพงขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นเพียงเพื่อความมั่นคงในตลาดอสังหาริมทรัพย์

 

แม้รัฐบาลได้สร้างที่อยู่อาศัยราคาถูกตามชานเมืองแล้ว แต่ค่าเช่าอพาร์ทเมนต์ยังมีราคาสูงถึง 20,000 ดอลลาร์ (600,000 บาท) ซึ่งไกลเกินเอื้อมสำหรับประชาชน

 

ขณะที่พระสงฆ์จากศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ไม่สามารถปฏิเสธการหลั่งไหลเข้ามาของครอบครัวใหม่ได้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่หลายจนจะบอกว่าพื้นที่ถูกจับจองเต็มแล้วก็ตาม ทำให้ท่านเจ้าอาวาสต้องหาผู้บริจาคที่ดินเพื่อเตรียมพื้นที่แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ

 

มิ้นนวย อาศัยอยู่ที่อพาร์ทเมนต์ในศูนย์ปฏิบัติธรรมกับสมาชิกทั้ง 9 คนในครอบครัว รู้สึกทราบซึ่งบุญคุณที่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าอาวาส

 

“สามีของฉันเป็นอัมพฤกษ์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว หลังจากนั้นเราก็ไม่มีอะไรจะกิน ” มิ้นนวย แม่ของลูก ๆ ทั้ง 5 คนอธิบายถึงสาเหตุที่ต้องมาอาศัยอยู่ที่นี่ ในขณะที่สามีของเธอนั่งอยู่ข้างๆ โดยที่ไม่สามารถพูดอะไรได้

 

แม้เธอจะสามารถขายผลไม้เพื่อนำไปขายเพื่อซื้อขนมมาให้ลูกๆ บ้างหรือซื้อยามาให้สามี แต่เธอก็คงเป็นเหมือนกับทุกคนที่อาศัยอยู่ในศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ที่มองไม่เห็นหนทางที่จะกลับไปพึ่งตนเองได้อีก

 

“ฉันอยากจะอยู่ที่บ้านของตัวเองและค้าขายเล็กๆ น้อยๆ ” เธอบอก “แต่ฉันไม่มีเงินเก็บ และสามีก็ป่วยอยู่”

 

————


 


แปลจาก Rent hikes push Myanmar’s poor into homelessness


 


AFP 10 กันยายน 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น