พลเอก มิ้นอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่า ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ช่อง Channel NewsAsia ว่า พม่ายังเป็นประเทศประชาธิปไตยใหม่ ดังนั้นจึงยังไม่พร้อมหากจะลดบทบาททหารในรัฐสภา ขณะที่ภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2008 ที่นั่งในสภา 25 เปอร์เซ็นต์ถูกสงวนไว้ให้กับทหารที่ไม่ได้รับเลือกมาจากประชาชน แต่มาจากการแต่งตั้ง
พลเอกมิ้นอ่องหล่ายกล่าวว่า “แค่เวลา 4 ปี เรายังเป็นประเทศประชาธิปไตยใหม่ หากจะมุ่งไปข้างหน้าด้วยพรรคการเมืองหลากหลายตามระบอบประชาธิปไตย เราจำเป็นจะต้องมีระบบที่เข้มแข็ง ตัวแทนของกองทัพที่มีอยู่ในรัฐสภาสามารถให้คำปรึกษาตามกระบวนการนิติบัญญัติ แต่พวกเขาไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ” มิ้นอ่องหล่ายกล่าว
ขณะที่เสียงของประชาชนเรียกร้องให้แก้รัฐธรรมนูญข้อที่ 436 เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางมิ้นอ่องหล่ายระบุว่า ไม่สามารถบอกกรอบเวลาชัดเจนได้ว่าเมื่อไหร่จะสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ ขึ้นอยู่กับความปรองดองภายในชาติ รวมไปถึงสันติภาพและความมั่นคงของประเทศ ขณะที่หลายฝ่ายมองว่า ที่นั่ง 25 เปอร์เซ็นต์ของทหารในรัฐสภากำลังเป็นอุปสรรคขัดขวางประชาธิปไตยในพม่า
ด้านนักวิเคราะห์ ดร.ยัน เมียว เต่ง กล่าวว่า สิ่งที่ชาวพม่ามีความกังวลมากที่สุดคือ ใครจะเป็นผู้ตัดสินใจและประเมินว่า กระบวนการประชาธิปไตยพม่านั้นเติบโตอย่างเต็มที่แล้ว แล้วเมื่อไหร่ที่กระบวนจะแล้วเสร็จ
“การมีตัวแทนทหาร 25 เปอร์เซ็นต์ในรัฐสภานั้นไม่ใช่ทางออก ทางออกที่แท้จริงสำหรับกองทัพก็คือ กองทัพนั้นมีหน้าที่ปกป้องดูแลประเทศชาติและประชาชน กองทัพควรจะอยู่นอกสภา ไม่ใช่อยู่ในสภา” ดร.ยัน เมียว เต่ง กล่าว
อย่างไรก็ตาม ชื่อของมิ้นอ่องหล่ายติดโผผู้ที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งประชาธิบดี เนื่องจากมิ้นอ่องหล่าย วัย 59 จะเกษียนอายุราชการในเร็วๆนี้ ขณะที่มิ้นอ่องหล่ายกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปสำหรับเรื่องนี้ โดยการตัดสินใจที่จะชิงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเวลา โดยหากให้ความสนใจทางการเมืองในตอนนี้ ก็จะกระทบกับงานที่กำลังรับผิดชอบอยู่ มิ้นอ่องหล่ายกล่าว
ขอบคุณภาพจาก RFA
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น