ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพม่าเผย ต้องการลงนามหยุดยิงทั่วประเทศก่อนเจรจาการเมืองกับชนกลุ่มน้อย

มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา พลเอกมิ้นอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่าได้ออกมากล่าว เนื่องในวันกองทัพพม่าครบรอบ 69 ปี ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเนปีดอว์ว่า ควรให้ความสำคัญกับการลงนามหยุดยิงมากกว่าการเจรจาการทางการเมืองกับชนกลุ่มน้อย

ทั้งนี้ พลเอกมิ้นอ่องหล่ายยังกล่าวว่า การเจรจาทางการเมืองยังไม่ควรเกิดขึ้น หากยังไม่มีการลงนามหยุดยิง โดยหากมีข้อตกลงใดๆเกิดขึ้น โดยที่ยังไม่มีการหยุดยิง นั่นอาจจะทำให้การตกลงนั้นล้มเหลวและนำไปสู่ความขัดแย้งครั้งใหม่และจะทำให้กระบวนการสร้างสันติภาพต้องหยุดชะงัก นอกจากนี้ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การยุติความขัดแย้งมีความจำเป็นจะต้องดำเนินการเป็นขั้นตอนไป โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ และสันติภาพถาวรนั้น จะต้องหยุดยิงทั่วประเทศและทางกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยจะต้องเป็นกลุ่มถูกกฎหมาย พลเอกมิ้นอ่องหล่ายกล่าว

มิ้นอ่องหล่ายยังกล่าวต่อหน้าทหารที่มาร่วมสวนสนามว่า ทหารนั้นมีบทบาทสำคัญในการวางโครงสร้างที่ทำให้เกิดเป็นประเทศพม่าในทุกวันนี้ รวมถึงทหารยังมีบทบาทในการจัดการให้ประเทศถ่ายโอนอำนาจไปสู่ประชาธิปไตยได้อย่างราบรื่น โดยมิ้นอ่องหล่ายยังกล่าวเป็นนัยๆว่า ทหารนั้นจะยังมีบทบาทสำคัญทางการเมืองต่อไป

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เต็งเส่งก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ได้พยายามที่จะเจรจาหยุดยิงกับกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อย 16 กลุ่ม และผลักดันกระบวนการสร้างสันติภาพในพม่า อย่างไรก็ตามยังพบว่า ยังคงเกิดการสู้รบอย่างต่อเนื่องระหว่างกองทัพพม่าและชนกลุ่มน้อย เช่นในรัฐคะฉิ่นและในรัฐฉานเป็นต้น ขณะที่รัฐบาลเต็งเส่งเผยว่า ได้วางแผนที่จะลงนามหยุดยิงทั่วประเทศกับชนกลุ่มน้อยในเร็วๆนี้

แปลและเรียบเรียงจาก DVB/Irrawaddy