วันนี้(6 มกราคม) นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคเอ็นแอลดีเปิดเผยว่า จะไม่ขอก้าวก่ายยุ่งเกี่ยวหรือเข้าไปยุติสงครามระหว่างกองทัพพม่าและกองทัพเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independence Army (KIA) ทางตอนเหนือของประเทศ หากไม่ได้การร้องขอจากรัฐบาลพม่า โดยระบุ ขณะนี้รัฐบาลพม่าเองกำลังดูแลเรื่องนี้อยู่
สาเหตุที่นางซูจีออกมาแสดงท่าทีครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากที่มีนักธุรกิจรายหนึ่งได้ร้องขอให้นางซูจียื่นมือเข้าไปช่วยหยุดสงครามในรัฐคะฉิ่น ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สงครามในรัฐคะฉิ่นมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หลังกองทัพพม่าใช้เครื่องบินรบเข้าไปโจมตีฐานที่มั่นสำคัญของทหารคะฉิ่น KIA อย่างไรก็ตาม คาดว่า ท่าทีของนางซูจีครั้งนี้จะสร้างความผิดหวังให้กับหลายฝ่ายที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชน ก่อนหน้านี้หลายคนก็แสดงความผิดหวัง หลังนางซูจีไม่แสดงท่าทีใดๆต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐอาระกัน หรือรัฐยะไข่
ขณะที่สถานการณ์ในรัฐคะฉิ่นล่าสุด มีรายงานว่า ทางกองทัพพม่าได้เพิ่มกำลังทหารเข้าประชิดศูนย์บัญชาการใหญ่ของ KIA จนถึงขณะนี้ ทหารพม่าประจำอยู่ใกล้กับเมืองไลซา ของ KIA ไม่ถึง 10 กิโลเมตร มีรายงานว่าเช่นเดียวกันว่า ผู้ลี้ภัยชาวคะฉิ่นในเมืองไลซาต่างหวาดกลัวกับความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้น และกำลังเผชิญกับการขาดแคลนอาหาร ยารักษาโรคและผ้าห่ม ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดสงครามในรัฐคะฉิ่นเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2554 ทำให้มีผู้ลี้ภัยเพิ่มขึ้นถึง 1 แสนคน โดยผู้ลี้ภัยเหล่านี้อาศัยอยู่ตามค่ายผู้ลี้ 17 แห่ง ใกล้ชายแดนรัฐคะฉิ่น - จีน
แปลและเรียบเรียงจาก สำนักข่าวไทย /Irrawaddy
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น