แม้รัฐบาลพม่าจะออกมาประกาศให้กองทัพพม่ายุติการโจมตีกองทัพเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independence Army -KIA) เมื่อเย็นวันศุกร์ (18 มกราคม) ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม KIA โจมตีกองทัพพม่าว่ายังโจมตี KIA ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันเสาร์ (20 มกราคม) ที่ผ่านมา มีรายงานว่า กองทัพพม่ายังคงโจมตี KIA ในพื้นที่ใกล้กับศูนย์บัญชาการใหญ่ของ KIA เมืองไลซา ขณะที่ทางทหาร KIA เองมองว่า การที่ทางรัฐบาลพม่าประกาศที่จะยุติสู้รบกับ KIA เป็นแค่แผนการที่ทางกองทัพพม่าจะเสริมกำลังทหารเข้ามาในพื้นที่ เพราะขณะนี้ก็ยังคงมีความสับสนว่า ครอบคลุมถึงพื้นที่ไหนบ้างที่ทางรัฐบาลพม่าประกาศให้ยุติการสู้รบ
การสู้รบเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าเกิดขึ้นที่ฐานที่มั่นกะยา บัม ซึ่งคาดว่า กองทัพพม่าต้องการที่จะยึดฐานที่มั่นนี้ หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กองทัพพม่าสามารถยึดฐานที่มั่นของ KIA ได้ 3 แห่ง อีกด้านหนึ่ง หนังสือพิมพ์เดอะนิวไลท์ออฟเมียนมาร์กลับรายงานว่า ทหาร KIA สังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจพม่า 2 คน เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา ในวันเดียวกัน ทางสื่อรัฐบาลก็กล่าวหาว่า KIA ได้วางกับระเบิดทำให้มีชาวบ้าน 22 คน ที่เดินทางในรัฐคะฉิ่นโดยรถบัสได้รับบาดเจ็บ ด้านโฆษกของทำเนียบประธานาธิบดีอ้างว่า เหตุที่กองทัพพม่าต้องละเมิดคำสั่งหยุดยิงจากประธานาธิบดีเต็งเส่ง เนื่องจากทหาร KIA ยังคงเข้าโจมตีฐานที่มั่นของทหารพม่า ทำให้ทหารพม่าต้องตอบโต้กลับ
ทางด้านกลุ่ม United Nationalities Federal Council (UNFC) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ประกอบด้วยกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่ม และกองทัพ KIA ร่วมเป็นสมาชิกอยู่ด้วยนั้นได้ออกมากล่าวหาสื่อของรัฐบาลพม่าว่า ยังคงเสนอข่าวและบทความโจมตี KIA เพื่อทำลายภาพพจน์ของ KIA ในสายตาของประชาชนในพม่าและต่างชาติ โดยกลุ่ม UNFC ยังกล่าวหารัฐบาลพม่าว่า พยายามโดดเดี่ยว KIA เหมือนเช่นที่เคยทำกับ KNU เมื่อช่วงปี 1995 ทางด้านโฆษกของ KIA เปิดเผยว่า การเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลใดๆที่จะเกิดขึ้น ทาง KIA เผยว่า จะให้ทาง UNFC เป็นผู้ดำเนินการให้กับทาง KIA
แปลและเรียบเรียงจาก Irrawaddy
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น