วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

ผู้ลี้ภัยคะฉิ่นมากกว่า 3 พันคน หนีสงครามในรัฐคะฉิ่นครั้งล่าสุด

kachin


องค์กรช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ที่ทำงานในรัฐคะฉิ่นออกแถลงการณ์ร่วมกันเมื่อวันจันทร์ (14 เมษายน 2557)ที่ผ่านมา โดยออกมาระบุว่า มีประชาชนมากว่าสามพันคนต้องหนีภัยสงครามในรัฐคะฉิ่น และในรัฐฉาน ขณะที่การสู้รบระหว่างกองทัพพม่าและทหารคะฉิ่น KIA ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง



เหตุสู้รบรุนแรงล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 เมษายน ใกล้กับเขต มานวินจี ในเมืองม่านซี ในเขตควบคุมของพม่า ซึ่งอยู่ระหว่างทางภาคเหนือของรัฐฉานและประเทศจีน ทั้งนี้ เหตุความตึงเครียดเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ หลังทางกองทัพพม่าได้ส่งกำลังทหารเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยอ้างเพื่อเข้าไปช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในการสำรวจประชากร


จากแถลงการณ์ร่วมของหลายองค์บรรเทาทุกข์ที่ทำงานในรัฐคะฉิ่นเปิดเผยว่า การปะทะกันระหว่างทหารพม่าและทหารคะฉิ่น ทำให้ผู้ลี้ภัยจำนวน 800 คน ในค่ายผู้ลี้ภัยลากัท ยาง ในเขตควบคุมของ KIA ต้องอพยพ ขณะที่บริเวณที่เกิดเหตุปะทะนั้นห่างจากค่ายผู้ลี้ภัยลากัท ยาง ไม่ถึง 1 กิโลเมตร โดยพบว่า ยังมีปืนใหญ่หลายลูกตกใส่ค่ายผู้ลี้ภัยดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอีกด้วย โดยพบว่า มีผู้ลี้ภัยบางส่วนที่อยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยเขต KIA แห่งอื่นๆได้ข้ามไปยังฝั่งจีนด้วย


ในแถลงการณ์ยังระบุ มีชาวบ้านอีก 2,000 คน ซึ่งมีทั้งชาวคะฉิ่น ไทใหญ่ และชาวดาระอั้ง จาก 24 หมู่บ้าน ฝั่งพม่า ข้ามไปยังฝั่งจีนด้วยเช่นกัน โดยผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ตอนนี้อาศัยอยู่ที่วัดไทใหญ่แห่งหนึ่ง ในเมือง Nwang Dao ประเทศจีน บางส่วนอาศัยอยู่กับญาติ มีรายงานว่า ถึงแม้ทางการจีนจะอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยข้ามไปฝั่งจีน แต่ได้จับตามองอย่างใกล้ชิด และยังไม่แน่นอนจะอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่ในฝั่งจีนได้นานแค่ไหน ในแถลงการณ์ร่วมยังระบุว่า สงคราม ทำให้ชายแดนพม่า -จีน อยู่ในสถานการณ์วุ่นวายและไม่มั่นคง โดยเรียกร้องให้การสู้รบระหว่างทั้งสองยุติทันที อย่างไรก็ตาม การสู้รบยังดำเนินต่อไป โดยทหารพม่ายังเข้าโจมตี KIA เมื่อวันจันทร์ (14 เมษายน) ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ หลังสัญญาหยุดยิง 17 ปี ระหว่างพม่าและคะฉิ่น KIA แตกหักลงเมื่อปี 2554 และทำให้เกิดสงครามขึ้นในรัฐคะฉิ่นและทางภาคเหนือของรัฐฉาน ส่งผลให้มีประชาชนมากกว่า 1 แสนคนต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัย แม้การเจรจาทางการเมืองยังดำเนินต่อไป ตามกระบวนการสร้างสันติภาพในพม่า แต่ยังพบว่า นอกจากทหารคะฉิ่น KIA แล้ว ทหารพม่ายังคงสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยอีกหลายกลุ่ม


แปลและเรียบเรียงจาก DVB/ขอบคุณภาพจาก Seamus Martov

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น