โฆษกของสำนักประธานาธิบดีของพม่า นาย อู เย ทุต ได้ออกมาโจมตีรัฐบาลอังกฤษว่ามีความพยายามที่จะแทรกแซงกิจการภายในของพม่า โดยการเรียกทูตพม่าให้เข้าพบ และขอให้ทูตพม่าโน้มน้าวให้รัฐบาลอนุญาตให้สามารถดำเนินการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอีกครั้งในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของพม่า
สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา ทางด้านเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศของอังกฤษ ได้เรียกนาย อูจ่อซาร์มิน ทูตพม่าเข้าพบ เพื่อหารือถึงกรณีที่รัฐบาลพม่าเข้มงวดและจำกัดการทำงานขององค์กรสากลที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในรัฐยะไข่ หรือรัฐอาระกัน ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางรับบาลพม่าได้สั่งให้องค์การแพทย์ไร้พรมแดน( Médecins Sans Frontières - MSF) ออกจากรัฐยะไข่ ขณะที่เหตุจลาจลในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็ส่งผลให้เจ้าหน้าที่องค์กรสากลต้องเดินทางออกจากรัฐยะไข่
นอกจากนี้ ทางการพม่ายังไม่พอใจประเด็นที่ทางอังกฤษได้ระบุในแถลงการณ์หลังประชุมกับทูตพม่า เกี่ยวกับการใช้คำเรียกชาวโรฮิงยา ซึ่งทางนาย อู เย ทุตตอบโต้ว่า ไม่เคยพบเอกสารทางราชการจากในยุคอาณานิคมที่เรียกชาวมุสลิมทางตะวันตกของพม่าว่า “ชาวโรฮิงยา” มาก่อน โดยนายเยทุต ระบุว่า การโน้มนาวทูตพม่าและการออกมาเรียกร้องของรัฐบาลอังกฤษนั้นเป็นสิ่งที่ทางรัฐบาลอังกฤษต้องการที่จะแทรกแซงกิจการภายใน และเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ทางด้านองค์กร the Foreign and Commonwealth Office and Department for International Development ได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อชาวมุสลิมโรฮิงยาที่ไม่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือด้านการแพทย์และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอื่นๆจากองค์กรสากล รวมถึงเรียกร้องให้รัฐบาลพม่ารับประกันความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและประชาชนในรัฐอาระกัน
แปลและเรียบเรียงจาก เมียนมาร์ไทม์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น