วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

"เมืองลา" ต้นแบบการพัฒนาหลังข้อตกลงสันติภาพ หรือแค่เมืองเถื่อน?

 

mongla

เมืองลา เขตปกครองพิเศษ 4 - คือที่ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือ? ก็ใช่ หรือเป็นต้นแบบของการพัฒนา? มันขึ้นอยู่กับว่าคุณถามใคร เมื่อสัปดาห์ที่แล้วประธานาธิบดีเต็งส่งได้กล่าวไว้ว่า เมืองลาเป็นตัวอย่างของผลกำไรทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการยุติความขัดแย้งทางการทหาร โดยระบุว่า เมืองชายแดนที่ติดกับประเทศจีนแห่งนี้มีการพัฒนามาด้วยตัวเองมากว่า 25 ปี หลังจากกลุ่มต่อต้านรัฐบาลได้ลงนามในสัญญาหยุดยิงกับรัฐบาลพม่า

และในขณะที่อาจจะไม่สงสัยเรื่องเศรษฐกิจที่กำลังบูมเท่าไหร่ แต่น่าแปลกที่ "เมืองบาปแห่งพม่า" แห่งนี้กลับถูกยกย่องจากประธานาธิบดี

การค้าขายผิดกฎหมายทุกอย่าง ตั้งแต่ขายบริการทางเพศ การพนัน ไปจนถึงยาเสพติด อาวุธสงคราม สัตว์ป่า มีให้เห็นกันเกลื่อนในเมืองที่บริหารโดยกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ซึ่งเป็นส่วนหน่งของพื้นที่เขตปกครองพิเศษ 4 คนในพื้นที่กล่าวว่า สาธารณูปโภคได้มีการพัฒนาขึ้นในเมืองชายแดนที่ครั้งหนึ่งเคยหลับไหล โดยเงินภาษีรายได้จากธุรกิจมืด

เมืองลาถูกบริหารจัดการโดยกองกำลังสัมพันธมิตรชาติประชาธิปไตย (National Democracy Alliance Army (NDAA)) หรือ กองกำลังเมืองลา ซึ่งมีกำลังกว่า 2 พันนาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่แยกตัวมาจากพรรคคอมมิวนิวต์พม่าที่ล่มสลายไปแล้ว กองกำลังเมืองลา ได้ลงนามหยุดยิงกับรัฐบาลพม่าเมื่อปี 1989

ผู้นำของกองกำลังเมืองลามีชื่อในภาษาจีนว่า หลินหมิ่งเสียน หรืออีกชื่อคือ จายลิน หรือ จายลืน ลูกครึ่งไทใหญ่-จีนได้สร้างสัมพันธ์ที่น่ารังเกียจระหว่างเมืองลากับประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ทางเหนือ

ไชน่าทาวน์

ลักษณะของความเป็นจีนที่อยู่ในเมืองลานั้นเป็นสิ่งที่ปฏฺเสธไม่ได้ เพราะได้รับอิทธิพลจากเงินผลประโยชน์จากจีน มีการทำธุรกิจโดยใช้เงินสกุลหยวนของจีน ถ้าคุณมือโทรศัพท์มือถือที่ใช้ได้ในเมืองลา แสดงว่าคุณมีซิมการ์ดจีนที่ใช้เครือข่ายโทรศพท์จากจีน มีการใช้ภาษาจีนกลางกันทั่วไปบนท้องถนน นอกจากนี้ยังใช้ไฟฟ้าจากจีนอีกด้วย โดยมีการเดินสายข้ามชายแดนมาหล่อเลี้ยงธุรกิจฉาวในเมืองลา

เศรษฐกิจส่วนใหญ่เกิดจากยชาวจีนที่เดินทางข้ามไปมาในแต่ละวันที่แสวงหาผลกำไรจากธุจกิจมืด

รัฐบาลพม่าได้พยายามจำกัดอิทธิพลชองจีนโดยสั่งให้ประชาชนชนในพื้นที่พูดภาษาพม่าซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จ มีการใช้ป้ายที่เขียนด้วยภาษาจีนกันเกลื่อนเมือง

การเดินทางเข้าไปในเขตปกครองพิเศษ 4 เป็นเรื่องปกติสำหรับคนจีน แต่สำหรับคนในประเทศนั้นเพิ่งจะเป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถไปได้ง่ายเมื่อไม่นานมานี้เอง ก่อนหน้าที่รัฐบาลเต็งเส่งจะเข้ามาปกครองประเทศเมื่อปี 2011 ชาวพม่าและชาวต่างชาติต้องได้รับจดหมายอนุญาตจากรัฐบาลก่อน

ในวันนี้ สามารถเดินทางโดยรถยนต์จากเชียงตุง เมืองหลวงของรัฐฉานไปยังเมืองลาโดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามท้องถนน เที่ยวตลาด(ที่มีอวัยวะของสัตว์ป่าขายจำนวนมาก) และเสี่ยงโชคในคาสิโนที่มีอยู่หลายสิบแห่งได้อย่างเสรี แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปได้

แม้ว่าเมืองลาในวันนี้จะต้อนรับนักท่องเที่ยวมากกว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่กองกำลังเมืองลาก็ดูเหมือนไม่ได้อยากจะมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อมากเท่าไหร่ จายสาม เจ้าหน้าที่ของกองกำลังเมืองลาสำนักงานเชียงตุงปฏิเสธที่จะพบกับนักข่าวจากอิรวดีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

"คุณสามารถเดินทางไปที่นั่น(เมืองลา)ได้ ไม่มีปัญหาอะไร แต่ผู้นำของเราไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้" จายสามกล่าวผ่านโทรศัพท์

เมื่อถามว่า นักข่าวอิรวดีจะสามารถเดินทางไปที่สำนักงานประสานงานของ NDAA ในเมืองลาได้หรือไม่ จายสามบอกว่า เจ้าหน้าที่ที่นั่นพูดภาษาพม่าไม่ค่อยได้ และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปที่นั่น นอกจากนี้ ทหาร NDAA ยังปฏิเสธไม่ให้ถ่ายรูป เช่นเดียวกับที่คาสิโนในเมือง

เมื่อสำรวจรอบๆ เมือง จะเห็นโครงการก่อสร้างหลายแห่งซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันถึงความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นของเมือง ราคาที่ดินพุ่งสูงขึ้นจากการลงทุนจากจีน

ขณะที่การพัฒนาส่วนมากเกิดจากนักธุรกิจที่ร่ำรวยชาวจีน จึงมีแรงงานสัญชาติจีนในเมืองอยู่เป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน โดยมีค่าแรงเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 200 หยวน(ประมาณ 1000 บาท)

แม้รายได้จะมากกว่าที่ชาวพม่าสามารถหาได้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะซื้อบ้านในเมืองลาได้ นางโหมข่าน ชาวไทใหญ่ประมาณราคาที่ดินหนึ่งแปลงพล้อมบ้านอยู่ที่ 200 ล้านจั๊ต (206,000 ดอลลาร์ หรือ ประมาณ 6 ล้านกว่าบาท) ราคาที่สูงลิ่วทำให้การเป็ฯเจ้าของบ้านสักหลังหนึ่งเป็นเรื่องที่ยากสำหรับหลายคน นอกจากนี้ กองกำลัง NDAA ยังบังคับให้แต่ละครอบครัวต้องส่งสมาชิกในครอบครัวอย่างน้อยหนึ่งคนไปเป็นทหารในกองทัพ

ธุรกิจบางอย่างของชาวจีนก็เป็นไปในแบบ Build - Operate - Transfer (B.O.T.) ระหว่างรัฐบาลเมืองลา ซึ่งส่วนใหญ่โรงแรมจะมีสัญญาให้เอกชนจากจีนก่อสร้างและดำเนินกิจการเป็นเวลา 30 ปีก่อนที่จะโอนกรรมสิทธิ์คืนให้กับรัฐบาลเมืองลา

ตามระยะเวลาในสัญญาดังกล่าวบ่งบอกว่า อิทธิพลจากจีนจะยังคงไม่ไปไหนในเร็วๆ นี้

ด้วยการที่มีเงินเปลี่ยนมือกันอยู่ตลอด จากโครงการโรงแรมมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ไปจนถึงค่าสินบนทหาร NDAA เพื่อลักลอบข้ามชายแดนราคา 3 หยวน (ประมาณ 150 บาท) จึงไม่แปลกใจเลยที่เมืองลาจะมีเศรษฐกิจที่พัฒนาไปได้ แต่ทว่า ผลกำไรเกิดขึ้นจากข้อตกลงสันติภาพเช่นนี้ ดีพอที่จะเอาเยี่ยงอย่างแล้วหรือ

จาก Market Growth and Moral Decline in Mong La โดย LAWI WENG / THE IRRAWADDY 1 กันยายน 2557

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น