วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557

รัฐบาลพม่าอ้าง เขื่อนท่าซางจะให้ผลประโยชน์ต่อพม่า

salween_rivers_5_20130920_1614170208

นายหม่อง ทา โทย รองรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของพม่า ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับข้อถกเถียงเกี่ยวกับโครงการเขื่อนที่เตรียมสร้างบนแม่น้ำสาละวิน ในการประชุมสภาล่างเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ระบุว่า เขื่อนท่าซางจะให้ผลประโยชน์กับพม่า และทางรัฐจะดำเนินการโดยมุ่งเน้นความต้องการภายในประเทศ



นายหม่อง ทา โทย ได้ตอบคำถามของนางหว่านุ ส.ส.จากเมืองกุ๋นเหง รัฐฉานว่า ที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับโครงการเขื่อนที่จะเกิดขึ้นบนแม่น้ำสาละวินตอนบน ในรัฐฉาน โดยนายหม่อง ทา โทย ระบุว่า การจ่ายไฟฟ้าจากเขื่อนจะส่งผลดีต่อประชาชน โดยอ้างว่า ไฟฟ้าที่ได้จากเขื่อนจะถูกนำมาใช้ในประเทศ ส่วนที่เหลือจะส่งขายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยทางรัฐบาลมีแผนที่จะให้คำปรึกษาแก่ชุมชนที่กังวลเรื่องผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการพัฒนาดังกล่าวและจะดำเนินการก่อสร้างให้กระทบกับชาวบ้านน้อยที่สุด นายหม่อง ทา โทย ระบุว่า ในขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า ทางการพม่าและบริษัทที่ทำสัญญาจะได้รับกำไรจากเขื่อนมากน้อยแค่ไหน แต่ยอมรับว่า โครงการเขื่อนท่าซางจะท่วมในบางพื้นที่ นอกจากนี้ นายหม่อง ทา โทย ยังบอกในสภาว่า ขณะนี้โครงการเขื่อนพลังงานไฟฟ้าเมืองโต๋น (เขื่อนท่าซาง ในชื่อเดิม) เปลี่ยนชื่อเป็นโครงการเขื่อนสาละวินตอนบน

ทางด้านนางหว่านุเปิดเผยว่า ไม่พอใจกับคำกล่าวอ้างของนายหม่อง ทา โทย เนื่องจากขณะนี้มีรายงานออกมาว่า เริ่มปรากฏความเสียหายเกิดขึ้นในบริเวณใกล้ๆพื้นที่สร้างเขื่อนแล้ว เช่นเกิดน้ำท่วมในช่วงหน้าฝน ทั้งๆที่ปกติแล้วในพื้นที่ดังกล่าวไม่เคยเกิดน้ำท่วมมาก่อน ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ต่างรู้สึกกลัวว่าจะถูกบังคับให้ย้ายถิ่นฐาน นางหว่านุกล่าวว่า โดยส่วนตัวรู้สึกมีความกังวลต่อโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นบนแม่น้ำสาละวินอย่างมาก เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาว่า หากโครงการเกิดขึ้นแล้ว จะทำให้มีไร่นาของชาวบ้านหรือป่าต้องเสียหายเป็นพื้นที่เท่าไหร่ และจะมีชาวบ้านมากน้อยแค่ไหนที่ต้องถูกไล่ที่ หรือถึงที่ดินทำกินของชาวบ้านมากน้อยที่จะต้องถูกยึด โดยนางหว่านุเรียกร้องให้ทางการต้องรับผิดชอบในการจ่ายเงินชดเชยหรือหาที่อยู่ที่ทำกินให้กับชาวบ้าน หากโครงการเขื่อนเกิดขึ้น

ขณะที่ชาวบ้านในเมืองกุ๋เหงเปิดเผยว่า ได้เห็นแรงงานต่างชาติและทหารพม่าได้เคลื่อนไหวบริเวณโครงการสร้างเขื่อนมากขึ้น บริเวณรอยต่อระหว่างเมืองกุ๋นเหงและเมืองโต๋น โดยทหารพม่าไม่อนุญาตให้ชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปใกล้กับบริเวณสร้างเขื่อน ขณะที่ชาวบ้านเชื่อว่า ขณะนี้โครงการเขื่อนท่าซางน่าจะเริ่มก่อสร้างแล้ว โดยนางหว่านุยังเปิดเผยว่า โครงการเขื่อนที่จะสร้างบนแม่น้ำสาละวินนั้นอยู่ใกล้กับเขตควบคุมของทหารไทใหญ่ ดังนั้นอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้นอีก

ขณะที่ เขื่อนท่าซางจะเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดใน 6 เขื่อนที่จะสร้างบนแม่น้ำสาละวิน โดยพื้นที่สร้างเขื่อนอยู่ห่างจากเมืองโต๋น ภาคตะวันออกของรัฐฉานไปประมาณ 10 กิโลเมตร และห่างจากชายแดนไทยด้านตรงข้ามอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 80 กม.โดยโครงการเขื่อนที่จะสร้างบนแม่น้ำสาละวินทั้ง 6 แห่ง อยู่ในรัฐฉาน 4 แห่ง ในรัฐคะเรนนี 1 แห่งและในรัฐกะเหรี่ยง 1 แห่ง

ทั้งนี้ โครงการเขื่อนที่มีแผนจะสร้างบนแม่นำสาละวินทั้งหมดกำลังถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะขาดการให้คำปรึกษาเสนอแนะต่อชุมชน และยังอาจส่งผลทำให้เกิดการย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่ของชาวพื้นเมือง รวมไปถึงส่งผลกระทบความเสียหายในด้านสิ่งแวดล้อม ขณะที่มีรายงานว่า โครงการเขื่อนจำนวน 2 แห่งต้องหยุดชะงักไว้ เนื่องจากถูกกระแสต่อต้านจากสาธารณชนและความกังวลว่าอาจจะเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ขณะที่คาดว่า หากเขื่อนท่าซางสร้างแล้วเสร็จจะผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 7,100 เมกะวัตต์ โดยเขื่อนท่าซางจะเป็นการร่วมมือระหว่างรัฐบาลพม่ากับกฟผ.อินเตอร์ ของไทย (EGAT) และสองบริษัทของจีน อย่างบริษัท Three Gorges group Corporation และบริษัท  Sinohydro Corporation คาดว่า จะใช้งบประมาณสร้างราว 6 พันล้านดอลลาร์

ขณะที่อีกด้านหนึ่ง องค์กรสิ่งแวดล้อมไทใหญ่ (Shan Saphawa) ได้เคยออกมาเปิดเผยเมื่อปีที่แล้วว่า หากโครงการนี้แล้วเสร็จ จะทำให้พื้นที่ 8 เมืองที่ตั้งอยู่ตามริมแม่น้ำสาละวินต้องจมอยู่ใต้น้ำ และจะทำให้หมู่บ้านราว 123 หมู่บ้านที่อยู่ตามแม่น้ำสาละวินจะถูกบังคับให้อพยพไปอยู่ที่อื่น ทั้งนี้ โครงการเขื่อนท่าซางเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปีที่ 2553 และได้ถูกระงับไว้ในช่วงปี 2554 หลังวิศกรชาวจีน 3 คน ถูกลักพาตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2554 จากกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่าย โดยทั้งหมดถูกลักพาตัวเป็นเวลากว่า 3 เดือน ก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวในกลางเดือนสิงหาคมในปีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม โครงการเขื่อนท่าซางกลับมาเริ่มก่อสร้างอีกครั้งในช่วงต้นปี 2556 ภายใต้ชื่อใหม่ว่า โครงการเขื่อนพลังงานไฟฟ้าเมืองโต๋น ทั้งนี้ ทางการพม่าได้เปลี่ยนชื่อจากเขื่อนท่าซางเป็นโครงการพลังงานไฟฟ้าเมืองโต๋น เพราะต้องการลดแรงกดดันและการประท้วงจากชาวบ้าน โดยพื้นที่ก่อสร้างแห่งใหม่ ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่ก่อสร้างเดิมไป 16 กิโลเมตร

 

ที่มา DVB/Irrawaddy/คนเครือไท

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น