ชาวรัฐฉานภาคเหนือ แสดงความเป็นห่วงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต หลังมีกลุ่มพ่อค้าชาวจีนเข้ามาแห่กว้านซื้อเอาหน่อไม้ในพื้นที่ส่งเข้าไปขายในจีน
แหล่งข่าวชาวเมืองล่าเสี้ยว รัฐฉานภาคเหนือ แจ้งว่า ขณะนี้ได้มีกลุ่มพ่อค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนเข้ามากว้านซื้อเอาหน่อไม้ชนิดต่างๆ จากชาวบ้านในพื้นที่นำเข้าไปขายต่อในประเทศจีน ซึ่งเรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายต่างแสดงความเป็นห่วงถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อมในอนาคต เนื่องจากจะทำให้ไม้ไผ่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติป่าไม้จะลดปริมาณลง
"การค้าขายหน่อไม้ในพื้นที่ภาคเหนือรัฐฉาน เกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงฤดูหน่อไม้ออก ซึ่งติดต่อกันมา 4 – 5 ปีแล้ว โดยกลุ่มพ่อค้าจะซื้อเอาในราคากิโลกรัมละประมาณ 150 จั๊ต (ราว 6 บาท) การที่พ่อค้าจีนกว้านซื้อหน่อไม้จำนวนมากนี้ชาวบ้านที่เป็นผู้ขุดนำมาขายไม่เข้าใจผลกระทบ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก" แหล่งข่าว เผย
สำหรับหน่อไม้ที่กลุ่มค้าจีนรับซื้อนั้น มีทั้งหน่อไม้สด หน่อไม้ตากแห้ง และหน่อไม้ที่ต้มสุกหั่นเป็นชิ้นๆ โดยหน่อไม้ที่ถูกขุดนำมาขายจะอยู่ตามฝั่งแม่น้ำ เช่น แม่น้ำมาตู แม่น้ำยาว นอกจากนี้มีการขุดขายกันในพื้นที่บ้านจ๋าม เมืองมุ ดอยต้า แสนหวี และเมืองลี ซึ่งอยู่ในพื้นที่เมืองล่าเสี้ยว รัฐฉานภาคเหนือ โดยจะถูกละเลียงไปยังชายแดนจีนด้วยรถมอเตอร์ไซค์ซึ่งบรรทุกกันคันละ 3 – 4 กระสอบ ซึ่งแต่ละวันมีหน่อไม้ถูกส่งเข้าจีนไม่ต่ำกว่า 600 กิโลกรัม
แหล่งข่าวเผยว่า เมื่อปีที่ผ่านมา 2554 หลังจากมีกลุ่มพ่อค้าชาวจีนแห่เข้ามากว้านซื้อหน่อไม้ ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ที่ห่วงผลกระทบสิ่งแวดล้อมรวมตัวกันร้องเรียนไปยังรัฐบาลผ่านสมาชิกพรรคการเมืองไทใหญ่ในพื้นที่ หลังจากนั้นมีการสั่งห้ามและทำให้การค้าขายหน่อไม้หยุดไป แต่ในปีนี้การค้าขายกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ในท้องที่ไม่ได้ใส่ใจออกมาตรการป้องกันแต่อย่างใด
ที่มา เว็บไซต์คนเครือไท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น