สำนักข่าวอิรวดีเปิดเผยเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา กลุ่มเอ็นจีโอได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลและสัมภาษณ์ชายขายบริการทางเพศ 50 คนตามสถานบันเทิงย่านสันติธรรม ไนท์บาซาร์และเชียงใหม่แลนด์ ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยพบว่า กว่าครึ่งหนึ่งเป็นเด็กหนุ่มชาวไต (ไทใหญ่) จากครอบครัวยากจน จากรัฐฉาน นอกจากนี้ยังมีเด็กหนุ่มชาวกะเหรี่ยงและชาวชิน โดยทั้งหมดมีอายุระหว่าง 14 – 24 ปี
จาการสัมภาษณ์ชายขายตัว 50 คน พบว่า นอกจากเด็กหนุ่มจากรัฐฉานแล้ว ยังพบว่ามีเด็กหนุ่มชาวเขาจากพื้นที่สูงของประเทศไทย เช่น ชาวลีซู ลาหู่ อาข่า ที่ต้องมาอยู่ในเส้นทางค้าโลกีย์นี้ ทางด้าน Jarett Davis ผู้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลครั้งนี้เปิดเผยว่า ชายขายตัวส่วนใหญ่ที่มาจากพม่า สามารถพูดภาษาไทยได้ เนื่องจากเด็กหนุ่มส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามเมืองพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ยังพบว่า เด็กหนุ่มขายตัวชาวไทใหญ่เหล่านี้มาจากครอบครัวยากจนในรัฐฉาน และต้องตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ระหว่างอพยพย้ายมาอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยยังพบว่า เด็กหนุ่มชาวไทใหญ่เหล่านี้ไม่มีเอกสารแสดงตัวและอยู่ในฐานะผู้เข้าเมืองผิดกฎหมาย
ทางด้านกลุ่มที่ลงพื้นที่เก็บข้อมูลเชื่อว่า บางสถานบันเทิงน่าจะมีเด็กหนุ่มขายตัวอายุต่ำกว่า 18 ปี และเป็นสิ่งที่ยากที่จะระบุตัวเลขชัดเจนว่าจำนวนชายขายตัวในจังหวัดเชียงใหม่มีอยู่เท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ต้นปี 2543 พบว่า มีวัยรุ่นชาวไทใหญ่ทะลักเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อมาหางานทำ ขณะที่จากการสำรวจพบว่า การเลือกขายบริการทางเพศเป็นตัวเลือกสุดท้ายของเด็กหนุ่มเหล่านี้ จากการสำรวจยังพบว่า เด็กหนุ่มมีความรู้สึกละอายและต่ำต้อยจากการทำอาชีพนี้
ขณะที่กลับพบว่า มีตัวเลขน้อยมากที่สามารถเลิกอาชีพนี้ได้ เนื่องจากส่วนใหญ่ยังต้องหาเงินส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัว จึงจำต้องอยู่ในเส้นทางอาชีพนี้ต่อไป จากการสำรวจยังพบว่า เด็กหนุ่มเหล่านี้มีโอกาสที่จะติดเชื้อโรคเอชไอวี/เอดส์ เนื่องจากพบว่า บางส่วนไม่ได้สวมถุงยางป้องกันระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับลูกค้า
แปลและเรียบเรียงจาก Irrawaddy /ภาพจาก sociologyinfocus.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น