วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

"หักดิบ-ศาสนา" บำบัดเหยื่อเฮโรอีนในคะฉิ่น

addict

เมื่อปีที่แล้ว วันนองเลย์ ออกจากหมู่บ้านทางตอนเหนือของพม่าเพื่อไปหางานทำ แต่กลับติดเฮโรอีนแทน ในวันนี้ ชายวัย 25 ปีร่างผอมเหลือแต่กระดูกนอนหักดิบอยู่ใต้ผ่าห่มเปื้อนๆ และถูกขังอยู่ในกระท่อมไม้ไผ่

 

เขาคือหนึ่งในบรรดาชายหนุ่มกว่า 600 คนที่มาเข้ารับการบำบัดยาเสพติดแบบตั้งเดิมที่ศูนย์เยาวชนเพื่อพระคริสต์ ในกระท่อมมุงหลังคาสังกะสีที่เรียงรายอยู่ริมฝั่งแม่น้ำในรัฐคะฉิ่น

 

พม่าขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ผลิตยาเสพติดรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากอัฟกานิสถาน และมีการเสพเฮโรอีนอย่างกว้างขวาง ศูนย์แห่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหายาเสพติดในพม่าที่รุนแรงและการขาดทางเลือกในการบำบัดรักษาผู้ติดยาในประเทศยากจน ที่ซึ่งการบำบัดแบบสมัยใหม่ยังขาดแคลนอยู่มาก

 

ศูนย์แห่งนี้เปิดคอร์ส 40 วันให้แก่ผู้ติดยาเสพติด โดยจะมีการอธิษฐาน การเรียนพระคัมภีร์ และการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมยกน้ำหนักและฟุตบอลสำหรับคนที่แข็งแรงพอจะทำได้

 

การล้างพิษจะทำในห้องไม้ไผ่หรือที่เรียกว่าห้องสวดพิเศษ โดยคนที่มาใหม่จะถูกขังอยู่ในห้องนี้ตลอดเวลาเป็นระยะเวลา 10 วัน

 

"ตอนแรกผมอยากกลับบ้านท่าเดียว แต่ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นบ้าง" วันนองเลย์ บอก ท้องแขนของเขาเต็มไปด้วยรูพรุนจากเข็มฉีดยา

 

ศูนย์เยาวชนเพื่อพระคริสต์เกิดขึ้นจากความคิดริเริ่มของดิงกี ละจ่า อดีตนักโทษและนักร้องเพลงพื้นบ้านที่รู้จักกันในชื่อ อาจ่า

 

ชายร่างใหญ่ดูแข็งแรงผู้นี้เชื่อว่าการอุทิศตนเพื่อพระเจ้าช่วยให้เขาหลุดพ้นจากเฮโรอีนในช่วงที่เขาถูกจับขังคุก 9 ปีข้อหาเสพยาเสพติด เขาก่อตั้งศูนย์แห่งนี้เมื่อปี 2009 หลังจากได้รับการปล่อยตัว แต่วิธีการบำบัดของเขาไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจากทั่วโลกเท่าไหร่ ที่เชื่อว่า การบำบัดโดยสมัครใจไม่เพียงแต่เป็นวิธีที่มีมนุษยธรรมเท่านั้นแต่ยังมีประสิทธิภาพมากกว่าด้วย

 

พวกเขาสนับสนุนนโยบายการลดความเสี่ยง ที่รวมไปถึงโครงการแลกเข็มฉีดยา และการให้ยาเมธาโดน ซึ่งเป็นยารักษาผู้ติดยา เป็นการมุ่งเป้าไปที่การบรรเทาผลเสียจากการใช้ยาเสพติดให้น้อยลง

 

ที่ศูนย์ของอาจ่าไม่มียาเมธาโดน เพราะเขาไม่เชื่อในประสิทธิภาพของมัน "มันไม่ได้ผล คุณจะไม่สามารถเลิกยาได้อย่างสิ้นเชิง"

 

หลังจากถูกขังในห้องสวดมนต์พิเศษแล้ว ผู้ที่เข้ารับการบำบัดจะถูกย้ายมายังหอพักที่ล็อคกุญแจไว้ในช่วงกลางคืนเช่นกัน มันทำให้ผู้บำบัดล้มเลิกความตั้งใจที่จะแอบออกไปซื้อสุราหรือบุหรี่ซึ่งของต้องห้ามที่นี่จากข้างนอก หรือคนที่คิดจะหนี

 

หนึ่งในสี่ของผู้บำบัดทั้งหมด 65 คน ส่วนใหญ่มีอายุตั้งแต่ 15 ถึง 25 ปี ในรุ่นล่าสุดได้หนีออกไปจากศูนย์ อาจ่าเล่า

 

บางคนเป็นชาวนา ผู้ใช้แรงงาน และนักเรียน ส่วนใหญ่เป็นชาวคะฉิ่นที่นับถือศาสนาคริสต์ แต่ก็มีชาวพุทธจากชนเผ่าอื่นๆ มารับการบำบัดเช่นกัน

 

ส่วนใหญ่เข้ามาที่นี่ด้วยความสมัครใจ แต่ก็มีบ้างที่ถูกจับบังคับให้มาโดยเจ้าหน้าที่ของศูนย์ซึ่งหลายคนเคยติดยามาก่อน

 

อาจ่าก่อตั้งศูนย์แห่งนี้ด้วยเงินบริจาคจากชาวคริสต์ด้วยกัน โดยเขาได้เก็บเงินค่าบำบัดประมาณ 1200 บาท แต่คนที่ยากจนก็อาจจะจ่ายน้อยกว่านั้น หรือไม่ได้จ่ายเลยก็มี

 

เขายืนยันว่าวิธีการบำบัดของเขานั้นได้ผล แม้ว่าจะไม่สามารถบอกได้ว่ามีผู้บำบัดกี่คนที่ไม่หันกลับไปเสพอีกหลังจากออกจากศูนย์ไปแล้ว

 

ในพม่า ผู้ที่ติดยาเสพติดยังคงถูกประณามและเลือกปฏิบัติ ในกฎหมายพม่าในสมัยที่ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ การมีเข็มฉีดยาในครอบครองมีโทษจำคุกถึง 6 เดือน

 

การกวาดล้างยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจในมิตจีนาเมื่อปีที่แล้วทำให้ผู้ที่ติดยาเสพติดต้องหลบซ่อนและเป็นการขัดขวางไม่ให้ผู้ติดยาเข้าโครงการบำบัดที่เป็นการต่อสู้กับกับการแพร่เชื้อเอชไอวี โดยกระทรวงสาธารณสุขเผิดเผยว่า กว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เสพยาโดยใช้เข็มฉีดยาติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยทางตอนเหนือของพม่าที่มีเฮโรอีนระบาดหนัก

 

 

 

แปลจาก Behind locked doors in Myanmar, prayer in place of methadone โดย ANDREW R.C. MARSHALL จาก www.theglobeandmail.com/ 10 กรกฎาคม 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น