วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555

ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพม่าย้ำ กองทัพจะยังคงมีบทบาทในการเมืองพม่า



พลเอกมิ้นอ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพม่ากล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวาระครบรอบ 67 ปีของวันกองทัพพม่าที่กรุงเนปีดอว์ในวันนี้ว่า กองทัพจะยังคงมีบทบาทในทางการเมืองพม่าต่อไปเหมือนเช่นในอดีต และย้ำว่า กองทัพมีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องรัฐธรรมนูญ



 

ทั้งนี้ พลเอกมิ้นอ่อง หล่าย ถูกแต่งตั้งให้ขึ้นมารับตำแหน่งแทนนายพลอาวุโสตานฉ่วยเมื่อปีที่แล้ว หลังนายพลอาวุโสตานฉ่วยส่งมอบอำนาจให้กับรัฐบาลพลเรือน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กองทัพภายใต้พลเอกมิ้นอ่อง หล่าย ถูกมองว่าเป็นกลุ่มที่ต่อต้านและพยายามขัดขวางคณะรัฐบาลประธานาธิบดีเต็งเส่งในการปฎิรูปประเทศไปสู่ประชาธิปไตย ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการปฎิเสธจากพลเอกมิ้นอ่อง หล่าย โดยพลเอกมิ้นอ่อง หล่าย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ในระหว่างที่ประเทศกำลังเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย กองทัพก็จะสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล พร้อมกันนี้ยังระบุว่า กองทัพจะปฎิบัติตามผลของการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลและกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อย

 

ขัดแย้งกับก่อนหน้านี้ ที่กองทัพพม่าถูกกล่าวหาว่า ละเลยคำสั่งของประธานาธิบดีเต็งเส่งที่ให้ยุติโจมตีกองทัพเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independence Army- KIA ) ในรัฐคะฉิ่น ปัจจุบันกองทัพพม่ามีทหารอย่างน้อย 4 แสนนาย โดยรัฐธรรมนูญพม่าปี 2008 ยังให้อำนายทหารครองเก้าอี้ในสภาได้ 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะให้อำนาจแก่ทหารในการออกเสียงในรัฐสภา และจะมีผลยับยั้งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ต้องอาศัยเสียงสนับสนุนเกินกว่า 75 เปอร์เซ็นต์

 

นอกจากนี้ยังพบว่า ขั้นสุดท้ายของการกำหนดนโยบายทั้งหมดของรัฐบาลนั้นจะต้องผ่านการพิจารณาและเห็นชอบจากสภาความมั่นคงและกลาโหมแห่งชาติ(National Defense and Security Council) ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิก 11 คน ซึ่งพบว่า มีผู้บัญชาการทหารสูงสุด รัฐมนตรีกลาโหมและเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีก 3 คน รวมอยู่ด้วย

 

อีกด้านหนึ่ง แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคเอ็นแอลดี ซึ่งคาดการณ์ว่า จะชนะการเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 1 เมษายน ที่จะถึงนี้ เตรียมผลักดันให้รัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2008 เพื่อลดอำนาจและบทบาทของกองทัพในทางการเมือง

 

แปลและเรียบเรียงจาก Irrawaddy 27 มีนาคม 55

 

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น