การเจรจากันเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา ที่เมืองรุ่ยลี่ ประเทศจีน ระหว่างตัวแทนจากรัฐบาลพม่าและองค์กรคะฉิ่นอิสระ(Kachin Independence Organization (KIO) องค์กรการเมืองของทหารคะฉิ่นพบว่ายังไม่คืบหน้ามากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถยอมรับข้อเสนอของอีกฝ่าย ทั้งนี้ การพบหารือเจรจากันอีกครั้ง เป็นความพยายามที่จะยุติความขัดแย้งและสงครามที่เกิดขึ้นในรัฐคะฉิ่น ซึ่งทำให้ผู้ลี้ภัยกว่าหลายหมื่นคนต้องอพยพไปอยู่ตามชายแดนพม่า - จีน
มีรายงานว่า รัฐบาลพม่ายังไม่ยอมตกลงที่จะถอนกำลังออกจากเขตพื้นที่ควบคุมของทหารคะฉิ่น KIA(Kachin Independence Army) และไม่ยอมรับข้อเสนอของ KIA ท่ีให้่แก้ปัญหาทางการเมืองเป็นอันดับแรกก่อนที่จะลงนามหยุดหยิง รวมทั้งไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของ KIA ที่เรียกร้องให้นานาชาติเข้ามาสังเกตการณ์ในการลงนามหยุดยิงระหว่างรัฐบาลพม่าและ KIA ในขณะที่ฝั่งของ KIA เองก็ไม่ยอมรับข้อเสนอของรัฐบาลพม่าที่ให้ลงนามหยุดยิงก่อนแล้วค่อยเจรจาทางการเมืองในรัฐสภาในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายเห็นด้วยกับข้อเสนอที่ให้มีการหารือเจรจากันต่อไป การสร้างความเชื่อใจระหว่างทั้งสองฝ่าย และการลดจำนวนทหารและการประสานงานในด้านความเคลื่อนไหวของทหารในพื้นที่ขัดแย้ง รวมถึงการปล่อยตัวนักโทษจากสงคราม ด้านนายพลกัน มอ ตัวแทนเจรจาจากฝ่าย KIO เปิดเผยว่า รัฐบาลยังเห็นด้วยที่จะจัดการประชุมทางการเมือง ซึ่งจะคล้ายกับการประชุมสัญญาปางโหลงในอดีต โดยนายพล กัน มอ หวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการหารือครั้งต่อไปที่จะเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่จะถึงนี้
และนับตั้งแต่กองทัพพม่าเริ่มโจมตีฐานที่มั่นของทหารคะฉิ่น KIA เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ทำให้ทาง KIA ได้ตัดสินใจและหันกลับมาเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าใช้วิธีดำเนินการเจรจาทางการเมืองกับทางกลุ่ม ภายใต้พื้นฐานข้อตกลงสัญญาปางโหลง ซึ่งทำไว้เมื่อปี 1947 ทั้งนี้ ชาวคะฉิ่นเตือนว่า การลงนามหยุดยิงเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งในรัฐคะฉิ่นได้ ทางเดียวที่จะสามารถแก้ปัญหาทั้งหมดได้คือการที่รัฐบาลถอนกองทัพออกจากพื้นที่รัฐคะฉิ่น
อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องดังกล่าวของชาวคะฉิ่นแทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า รัฐบาลจะไม่มีทางถอนทหารจากพื้นที่นี้ เพราะรัฐคะฉิ่นเป็นรัฐที่ร่ำรวยทรัพยากรธรรมชาติ และการสร้างเขื่อนในรัฐคะฉิ่นยังทำให้รัฐบาลพม่ามีรายได้มหาศาล
แปลและเรียบเรียงจาก Mizzima /DVB 13 มีนาคม 55
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น