นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคเอ็นแอลดีได้เดินทางกลับถึงพม่าแล้วเมื่อคืนวันพฤหัสบดี(4 ตุลาคม)ที่ผ่านมา โดยซูจีบอกกับผู้สนับสนุนที่มาต้อนรับนับร้อยว่า พม่าจำต้องอดทนเพื่อก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก พร้อมระบุว่า ต้องทำงานหนักมากกว่านี้เพื่อไปให้ถึงจุดมุ่งหมาย
“เราต้องเข้าใจว่าเราต้องทำงานให้มากกว่านี้ เรามีงานที่ต้องทำและเราต้องสามัคคีและร่วมกันทำงาน เราอาจจะเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ถ้าเราพยายาม เชื่อว่าเราจะไปถึงจุดมุ่งหมายที่เราหวังไว้” ซูจีกล่าวกับผู้ที่มาให้การต้อนรับเธอ
ทางด้านเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลพม่าระบุว่า การเยือนสหรัฐฯครั้งนี้ของซูจีนั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก เห็นได้จากนานาชาติเริ่มเปลี่ยนแปลงทัศนคติต่อพม่า เริ่มมองพม่าได้สู่การเปลี่ยนแปลง และเห็นได้จากมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อพม่าระหว่างการเยือนของนางซูจี เจ้าหน้าที่คนเดิมยังกล่าวว่า ประธานาธิบดีเต็งเส่งและนางซูจีได้แสดงให้เห็นแล้วว่า มีมุมมองและความเห็นที่เหมือนกัน โดยเฉพาะในเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ที่ดีต่อชาวพม่า 60 ล้านคน
ด้านเมี๊ยะเอ จากกลุ่มนักศึกษาปี 1988 เองก็แสดงความเห็นว่า นางซูจีเปรียบเหมือนตัวแทนของประชาชนชาวพม่าในการเดินทางเยือนสหรัฐ“เป็นเรื่องจริงที่เรายังมีเส้นทางที่ต้องเดินอีกไกล ดังนั้นเราควรที่จะสามัคคีกันเพื่อผลประโยชน์ที่ดีต่อประเทศของเรา ทุกวันนี้ เส้นกั้นระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มฝ่ายค้านเริ่มที่จะเลือนลางไป ดังนั้น งานด้านการเมืองทั้งหมด เราควรที่จะร่วมมือกันทำงานเพื่อการปฏิรูปประเทศของเรา”เมี๊ยะเอกล่าว
ขณะที่การเยือนสหรัฐครั้งนี้ ถือเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งที่สามของนางซูจีในปีนี้ นับตั้งแต่ได้รับการปล่อยตัวจากการถูกกักบริเวณในปี 2010
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น