ชาวบ้านร้องเรียน ถูกสั่งไม่ให้ปลูกพืชตามฤดูกาลบนที่ดินของตน เหตุเตรียมก่อสร้างโครงการท่าเรือนำ้ลึกทวาย

มีรายงานว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย ทางตอนใต้ของพม่า ถูกเจ้าหน้าที่สั่งไม่ให้ปลูกพืชตามฤดูกาล ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนเองก็กลัวว่า เจ้าหน้าที่ทางการจะยึดที่ดินของตน จึงเริ่มไม่ปลูกพืชใดๆ ชาวบ้านหลายคนร้องเรียน เรื่องนี้กำลังส่งผลให้ชาวบ้านขาดรายได้



ชาวบ้านจากเขตนาบูเล จากเมืองเยบิ่วร้องเรียนว่า ได้สูญเสียพื้นที่ทำกินให้กับโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย และขณะนี้ยังถูกเจ้าหน้าที่สั่งไม่ให้ปลูกพืชตามฤดูกาล มะวินวิน จากกลุ่ม Tavoyan Women’s Union เปิดเผยว่า ในปีนี้ ชาวบ้านอาจจะต้องย้ายออกจากที่ดินของตัวเอง อย่างไรก็ตามพบว่า ชาวบ้านเริ่มขายที่นาของตัวเอง ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนก็ยังไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรกับที่ดินของตน มีรายงานด้วยว่า ชาวบ้านบางส่วนเองไม่กล้าที่จะลงทุนปลูกพืชตามฤดูกาลเนื่องจากหวั่นขาดทุน และกลัวว่าที่ดินจะถูกเจ้าหน้าที่ยึด

 

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ชาวบ้านจากเขตนาบูเลมีรายได้จากการปลูกแตงโม ขนุน และมะม่วงหินมพานต์เป็นต้น โดยชาวบ้านจากเขตนาบูเลมีรายได้จากการปลูกพืชตามฤดูกาลเฉลี่ยครอบครัวละ 3 ล้านจั๊ต (91,974 บาท) ทั้งนี้ ชาวบ้านยังมีรายได้จากการปลูกแตงโมในที่ดินของตนที่ติดกับชายฝั่ง และส่งผลผลิตไปขายในตัวเมืองทวาย โดยชาวบ้านในพื้นที่ระบุว่า ที่ผ่านมา ชาวบ้านใช้ชีวิตและทำงานอย่างสงบและมีรายได้เพียงพอจากการทำเกษตรกรรม แต่เริ่มประสบความยากลำบากและปัญหานับตั้งแต่โครงการท่าเรือน้ำลึกทวายเข้ามาในพื้นที่

 

ด้านเว็บไซต์ The Tavoyan Voice ระบุว่า โครงการท่าเรือน้ำลึกทวายจะให้ผลประโยชน์แก่นักธุรกิจและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเท่านั้น ในขณะที่ผล กระทบจะตกอยู่ที่ชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งนี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ชาวบ้านต้องประสบกับปัญหายากลำบากในการเดินทางในเมืองเยบิ่ว เนื่องจากถนนถูกทำลายจากรถบรรทุกขนาดใหญ่ ซึ่งรถบรรทุกเหล่านี้ถูกใช้โดยบริษัทอิตาเลียนไทย  ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ( มหาชน )
เพื่อขนอุปกรณ์ก่อสร้างไป -กลับยังเขตก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกทวาย

 

แปลแลเรียบเรียงจาก www.karennews.org