รัฐบาลพม่าและยูเอ็นออกมาเปิดเผยว่า จากเหตุความรุนแรงในรัฐอาระกัน หรือรัฐยะไข่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 86 คน และส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 22,500 คน ต้องทิ้งบ้านเรือนของตัวเองไปอยู่ที่อื่น และมีบ้านเรือนกว่า 4,600 หลังถูกเผาทำลายได้รับความเสียหายใน 8 เมืองของรัฐอาระกัน
ชาวบ้านคนหนึ่งระบุว่า ทั้งชาวโรฮิงยาและชาวยะไข่ต่างใช้มีด ดาบและหนังสติ๊กเข้าทำร้ายอีกฝ่าย ส่วนสถานการณ์ในเมืองชิตต่วย เมืองหลวงของรัฐอาระกันยังปกติ ไม่มีเหตุการณ์ปะทะกันเกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่พบว่า รัฐบาลพม่าได้ส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ยังพบชาวมุสลิมโรฮิงยาได้อพยพไปยังค่ายพักพิงชั่วคราวเต ชอง ที่ตั้งอยู่นอกเมืองชิตต่วยอย่างต่อเนื่อง ทางด้านประธานาธิบดีเต็งเส่งได้แสดงความเป็นห่วงว่า การปฏิรูปในพม่าอาจต้องชะงักลงจากเหตการณ์ความไม่สงบและการปะทะกันระหว่างผู้ที่ต่างศาสนาและเชื้อชาติในรัฐอาระกัน โดยเต็งเส่งได้ออกคำสั่งลงโทษผู้ที่ก่อเหตุความรุนแรงและสร้างความขัดแย้งในรัฐอาระกัน
สถานการณ์ในรัฐอาระกันเริ่มเลวร้ายนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ความขัดแย้งครั้งก่อนมาได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 80 คน และประชาชนกว่า 75,000 ต้องทิ้งบ้านเรือนของตนไปอยู่ที่ค่ายพักพิงชั่วคราว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมโรฮิงยา
แปลและเรียบเรียงจาก Mizzima
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น