มีรายงานว่าเจ้าอ่องเมียต เจ้าหน้าที่ระดับสูงรัฐบาลท้องถิ่นประจำในรัฐฉาน ได้เปิดเผยกับ ส.ส.พรรคเสือเผือกของไทใหญ่ว่า รัฐบาลท้องถิ่นในรัฐฉานพร้อมที่จะต้อนรับชาวไทใหญ่พลัดถิ่นที่ต้องการจะเดินทางกลับคืนบ้านเกิด และพร้อมให้ที่อยู่ ที่ทำกินใหม่
เจ้าอ่องเมียตระบุว่า หากชาวไทใหญ่ที่เดินทางกลับเป็นกลุ่มใหญ่ หรือราว 70 – 80 ครอบครัว กลุ่มนี้จะสามารถที่จะตัดสินใจและเลือกว่าต้องการที่จะตั้งรกรากอยู่ที่ไหน โดยรัฐบาลท้องถิ่นจะให้การช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยผู้ที่เดินทางกลับตามลำพังก็สามารถที่จะไปอาศัยอยู่กับญาติ ทั้งนี้ เจ้าอ่องเมียตกล่าวกับนางคำเอ ส.ส.พรรคเสือกเผือกหรือพรรคประชาธิปไตยแห่งชาติไทใหญ่ (Shan Nationalities Democratic Party - SNDP) ระหว่างที่ร่วมหารือกับนางคำเอในการประชุมสภาพม่าระดับรัฐระหว่างวันที่ 20 – 21 ธันวาคมที่ผ่านมา
มีรายงานว่า ชาวไทใหญ่พลัดถิ่นที่ต้องการเดินทางกลับเป็นกลุ่มใหญ่จะต้องแจ้งไปยังสถานทูตพม่าที่กรุงเทพฯ เพื่อที่ทางการพม่าจะประสาน รวมถึงช่วยในเรื่องการอำนวยความสะดวกให้ผู้พลัดถิ่นสามารถเดินทางกลับถึงบ้านเกิดได้อย่างปลอดภัย
ขณะที่นางคำเอระบุว่า สามารถแบ่งกลุ่มแรงงานข้ามชาติชาวไทใหญ่ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้อยู่ทั้งหมดอยู่ 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกคือ กลุ่มที่ต้องการเดินทางกลับบ้าน แต่ยังห่วงเรื่องความปลอดภัยและกลัวกับระเบิด กลุ่มที่สองคือแรงงานที่อยากกลับบ้านแต่ไม่มีหลักฐานแสดงตนว่ามาจากพม่า และกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มที่ตัดสินใจที่จะไม่เดินทางกลับ
นับตั้งแต่ปี 2491 เป็นต้นมา หรือนับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษ มีประชากรชาวไทใหญ่ระหว่าง 5 แสน - 1 ล้านคนที่ตัดสินใจทิ้งรัฐฉาน ซึ่งเป็นผลมาจากสงครามการสู้รบ เศรษฐกิจที่ล้มเหลวภายใต้การบริหารของรัฐบาลหารพม่า รวมถึงการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนจากกองทัพพม่า ทำให้ชาวไทใหญ่จำใจยอมทิ้งบ้านเกิดและเดินทางเข้าประเทศไทย
การอพยพถิ่นฐานครั้งใหญ่ที่สุดในรัฐฉานเกิดขึ้นระหว่างปี 2493 – 2504 ซึ่งตรงกับในยุคที่ทหารจีนก๊กมินตั๋งเข้ารัฐฉาน และระหว่างในปี 2539 - 2541 ตรงกับในยุคที่รัฐบาลทหารพม่าใช้ยุทธการตัดสี่ต่อกองทัพรัฐฉาน (Shan State Army) นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นในปี 2542 – 2544 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กองทัพสหรัฐว้า (United Wa State Army) บังคับชาวว้าย้ายฐิ่นฐานจากบริเวณชายแดนจีนมายังชายแดนไทย
ที่มา SHAN ขอบคุณภาพจาก Mizzima
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น