วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ชาวมุสลิมถูกโจมตีเสียชีวิต 10 คน สร้างความตึงเครียดระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิมในรัฐอาระกัน



มีรายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 มิถุนายน) ชาวมุสลิมจำนวน 10 คน ถูกกลุ่มชาวอาระกัน (ยะไข่) โจมตีและทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ระหว่างที่ทั้งหมดกำลังโดยสารรถบัสเพื่อเดินทางไปยังกรุงย่างกุ้ง ทั้งนี้ สาเหตุการโจมตีชาวมุสลิมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังมีหญิงชาวอาระกันรายหนึ่งถูกข่มขืนและถูกฆ่าเสียชีวิตเมื่อหลายวันก่อน โดยชาวมุสลิม 3 คน ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ทำให้ชาวอาระกันต่างโกรธแค้นชาวมุสลิมและก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

 



ทั้งนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15 .00 ของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในหมู่บ้านต่องโก๊ด ทางภาคใต้ของรัฐอาระกัน เมื่อกลุ่มชาวอาระกันกว่า 300 คน ได้หยุดรสบัสคันหนึ่งและเข้าโจมตีทำร้ายผู้โดยสารที่เป็นชาวมุสลิมโรฮิงยาด้วยไม้และมีด ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 10 คน อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว kaladan Press Network รายงานว่า มีชาวมุสลิมจำนวน 5 คน สามารถหนีรอดจากการถูกโจมตีได้

 

เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ความขัดแย้งทางเชื้อชาติและศาสนาระหว่างชาวมุสลิมโรฮิงยาและชาวอาระกันในรัฐอาระกันเกิดขึ้นบ่อยครั้งตั้งแต่ในอดีต เนื่องจากชาวมุสลิมโรฮิงยาถูกกล่าวหาว่าเป็นชาวเบงกาลีอพยพ และไม่ได้รับการยอมรับจากชาวอาระกันซึ่งเป็นชาวพื้นเมืองท้องถิ่นในรัฐอาระกัน อย่างไรก็ตาม แม้ตลอดที่ผ่านมา ชาวโรฮิงยามักเป็นกลุ่มที่ถูกต่อต้านและถูกโจมตี แต่เว็บไซต์ www.news.mmsy.info/news รายงานว่า นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ชาวมุสลิมในพม่าทั้งหมดเริ่มถูกต่อต้านมากขึ้น โดยมีกลุ่มที่ต่อต้านชาวมุสลิมทั้งในประเทศพม่าและนอกประเทศพม่าได้ส่งข้อความที่มีเนื้อหาโจมตีชาวมุสลิมผ่านทางเฟสบุ๊คและอีเมล

 

ขณะที่หลังการเกิดเหตุการณ์ฆ่าชาวมุสลิมเสียชีวิต 10 ราย ในวันนี้ มีกลุ่มชาวมุสลิมในกรุงย่างกุ้งได้ออกมาประท้วงเพราะไม่พอใจ โดยเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้นและจับผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดี เช่นเดียวกับหลายองค์กรของชาวมุสลิมโรฮิงยาได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าปกป้องสิทธิและเกียรติยศของพลเมืองทุกคนอย่างเท่าเทียม นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้นานาชาติกดดันให้รัฐบาลพม่าปกป้องคุ้มครองชาวมุสลิมในประเทศ

 

แปลและเรียบเรียงจาก www.news.mmsy.info/news / kaladan Press Network/ภาพ www.mandalaygazette.com

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น