สำนักข่าวอิรวดีรายงานว่า ชาวโรฮิงยากว่า 1,500 คน ถูกผลักดันกลับพม่า หลังทั้งหมดพยายามเดินทางโดยทางเรือเข้าบังกลาเทศ
เพื่อหนีความขัดแย้งและความรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในรัฐอาระกัน ขณะที่บังกลาเทศเองประกาศกร้าวจะไม่ให้มีใครเข้าบังกลาเทศอย่างผิดกฎหมาย ส่วนการปะทะกันระหว่างชาวโรฮิงยาและชาวยะไข่ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและตึงเครียด แม้ประธานาธิบดีเต็งเส่งจะประกาศภาวะฉุกเฉินและมอบอำนาจให้ทหารเข้าไปดูแลในพื้นที่แล้วก็ตาม ทั้งนี้ รัฐบาลพม่ากล่าวว่า รัฐบาลกำลังพยายามที่จะทำให้เสถียรภาพกลับคืนสู่รัฐอาระกัน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการปะทะกันระหว่างชาวยะไข่และชาวโรฮิงยายังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง และพบว่า ยังคงมีการลักลอบวางเพลิงทั้งในเมืองมงดอว์และเมืองชิตต่วยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยยังพบว่า ในพื้นที่เกิดเหตุความรุนแรง ประชาชนเริ่มขาดแคลนทั้งอาหารและน้ำดื่ม ขณะที่โรงเรียน ธนาคารและตลาดต่างปิดลงชั่วคราว โดยมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ขณะที่สื่อของพม่ารายงานว่า การประทะกันนับตั้งแต่วันศุกร์ถ
ึงวันจันทร์ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 21 คน บาดเจ็บ 21 คน มีบ้านเรือน 1,662 หลังถูกเผา อย่างไรก็ตาม ข้อมูลขัดแย้งกับเครือข่ายมุุสลิมโรฮิงยาในไทยที่ระบุว่า ขณะนี้มีผู้ได้้รับบาดเจ็บและสูญหายประมาณ 800-1,000 คน ส่วนสำนักข่าวกะลาดานของชาวโรฮิงยารายงานว่า มีชาวโรฮิงยาถูกฆ่านับร้อย ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงและความขัดแย้ง สิ่งที่พบเห็นอยู่ทั่วไปในรัฐอาระกันขณะนี้ก็คือ ซากบ้านเรือนที่ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น