ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง เปิดเผยในวันนี้ (19 มิ.ย.)ว่า พม่าจะเริ่มเดินหน้า "คลื่นแห่งการปฏิรูปครั้งที่ 2" ซึ่งจะรวมถึงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นแนวคิดคร่าวๆ และกฎหมายค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อตอบสนองการพัฒนาทางเศรษฐกิจในอนาคต
ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง แถลงผ่านทางโทรทัศน์ระบุว่ารัฐบาลตั้งเป้าจะพัฒนาเศรษฐกิจให้ขยายตัวที่ร้อยละ 7.7 โดยเฉลี่ยในระยะ 5 ปีต่อจากนี้ หลังจากในช่วงปีแรกที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการปฏิรูปทางการเมืองและสร้างความปรองดองจนเกิดความเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ มาแล้ว
เขากล่าวว่า นับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป พม่าจะเริ่มนโยบายคลื่นแห่งการปฏิรูปลูกที่ 2 ซึ่งจะมุ่งเน้นการพัฒนาประเทศและสวัสดิการต่างๆของประชาชน และการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะทำให้บทบาทของรัฐในอุตสาหกรรมที่สำคัญหลายแห่งลดลง ซึ่งรวมถึง การสื่อสาร การไฟฟ้า พลังงาน ป่าไม้ การศึกษา สาธารณสุข และการเงินการคลัง
นายเต็ง เส่งระบุว่า คลื่นการปฏิรูปครั้งใหม่นี้ ไม่ได้หมายความว่ารัฐจะจับแยกอุตสาหกรรมดังกล่าวออกเป็นส่วนๆหรือขายทิ้ง แต่เพราะลำพังรัฐบาล อาจไม่มีงบประมาณมากพอที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายในทุกด้าน จึงจำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือจากต่างชาติ ทั้งในด้านเงินช่วยเหลือ เงินกู้ยืม และทักษะความรู้ เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากความยากจนและกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดีเขาเน้นย้ำว่า พม่าจะต้องทำการพิจารณาการลงทุนอย่างรอบคอบ เพื่อมิให้กระทบต่อสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคม
ทั้งนี้ คาดว่าพม่าจะเริ่มพิจารณากฎหมายการลงทุนจากต่างชาติในการประชุมรัฐสภาในเดือนหน้า ขณะที่รัฐบาลกำลังอยู่ในกระบวนการร่างกฎหมายเขตอุตสาหกรรมและค่าแรงขันต่ำ นอกจากนั้น ผู้นำพม่ายังให้คำมั่นที่จะทำให้มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)ต่อประชากรของประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า ภายในปีงบประมาณ 2015/2016
มติชนออนไลน์ 19 มิถุนายน 55
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น