วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"ปีใหม่ชาวนากา" เทศกาลนี้เพื่อใคร?

ย่างกุ้ง- เทศกาลปีใหม่ประจำปีของชนเผ่านากาที่จัดขึ้นในปีนี้ นับว่าสร้างความผิดหวังให้กับบรรดานักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักและคนในพื้นที่ที่มาเที่ยวชมงานเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ก็เพราะรัฐบาลที่เข้ามาแทรกแซงจนทำให้งานกร่อย

 

[caption id="attachment_3805" align="alignnone" width="670" caption="ชาวนากาในเทศกาลปีใหม่ของชนเผ่า ภาพ Irrawaddy"][/caption]

 

ผมไม่สนใจจะมาเที่ยวงานปีใหม่ของชาวนากาอีกแล้ว ค่าใช้จ่ายในการเดินทางแพงมาก แต่อาหารไม่ได้เรื่อง ที่พักก็แย่ ห้องน้ำเสียอีกต่างหาก” นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันผู้ไม่อยากเปิดเผยชื่อ กล่าว

 

แม้แต่การเยี่ยมชมวิถีชีวิตในหมู่บ้านซึ่งเป็นจุดประสงค์รองสำหรับนักท่องเที่ยวที่มางานปีใหม่ก็ยังถูกเจ้าหน้าที่ขัดขวาง เราไม่สามารถไปหมู่บ้านอื่นที่อยู่นอกหมู่บ้านที่จัดงานได้” นักท่องเที่ยวคนดังกล่าว เสริม

 

นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากสำหรับการเดินทางไปร่วมฉลองปีใหม่ของชาวนากา  บางรายต้องจ่ายถึง 1500 ดอลลาร์ต่อคนให้กับบริษัทท่องเที่ยวเอกชน  สำหรับคนในประเทศแล้ว ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเช่นกัน ต้องเสียเงินประมาณ 5 แสนจั๊ต (19,000 บาท) สำหรับการเดินทางไปยังเขตภูเขาในภาคสะกาย ชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือของพม่า ติดกับประเทศอินเดีย

 

ในแต่ละปี เทศกาลปีใหม่จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันในเดือนมกราคม วันแรกเป็นการซ้อมเต้นรำพื้นบ้าน ส่วนวันที่สองเป็นวันจริง โดยชาวนากาจะเต้นระบำในตอนบ่ายและตอนค่ำต่อหน้าฝูงชนที่มาร่วมงาน แต่โชคร้ายที่ปีนี้ งานวันแรกถูกยกเลิกไปโดยปริยายเนื่องจากนักเต้นประจำเผ่าบ้านต้องไปให้การต้อนรับแขกวีไอพีของรัฐบาล ซึ่งรวมไปถึงรองประธานาธิบดี ติ่นอ่องมิ้นอู  และนับว่าเป็นคนสำคัญของรัฐบาลคนแรกที่มาร่วมงานเทศกาลปีใหม่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครสนใจมาก่อน

 

นั่นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของความน่าผิดหวังเท่านั้น เพราะการเต้นรำช่วงบ่ายในวันที่สองก็ยังถูกตัดไป เพราะไปเสียเวลากับพิธีการบริจาคของท่านรองประธานาธิบดีกับพวกนักธุรกิจที่มีมากกว่า 20 บริษัท

 

พวกเขาเต้นระบำได้แค่ตอนค่ำ เราจึงไม่สามารถถ่ายรูปสวยๆ ได้ เพราะไม่มีแสง” โกโม ช่างภาพ บอก

 

 

ชาวนากากว่า 400 ชีวิตจาก 20 หมู่บ้านมารวมตัวกันในงานนี้ แต่นำหรับนักท่องเที่ยว เหมือนได้มาดูการแสดงโฆษณาประชาสัมพันธ์งี่เง่าๆ เสียมากกว่า

 

ที่น่าผิดหวังอีกอย่างหนึ่งก็คือ ตอนที่ชนเผ่านากาออกมาเต้นรำ พวกนักธุรกิจก็ออกมาร่วมเต้นรำกับพวกเขาด้วย” โกโม  บอก

 

ผมไม่เคยมาร่วมงานปีใหม่ของชาวนากามาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ผมได้ดูจากรูปที่ถ่ายของงานปีก่อนๆ ผมต้องเสียเงินค่าเดินทางถึง 5 แสนจั๊ต ตอนนี้ทุกอย่างก็หมดแล้ว”

 

นักท่องเที่ยวหลายคนบอกว่า พวกเขาถูกปล่อยไว้โดยไม่มีใครบอกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป และไม่ได้รับข้อมูลเรื่องตารางเวลาใดๆ ของงาน นอกเหนือจากเวลาอาหารกลางวันและอาหารเย็นเท่านั้น

 

สิ่งเดียวที่พอจะชดเชยได้บ้างก็คือการนั่งรถจิ๊บจากเมืองเลชีไปยังทะมานตี และการล่องเรือไปตามแม่น้ำชินดวิน ที่มองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่เหตุการณ์ที่ไม่น่าปลื้มก็เกิดขึ้นอีก เมื่อรถรับนักท่องเที่ยวไปยังสนามบินเกิดเสียขึ้นมา ทำให้หลายคนตกเครื่องที่จะกลับไปย่างกุ้ง  บางคนได้ที่พักที่เกสต์เฮาส์ แต่บางคนก็ต้องตั้งแค้มป์นอนบนฝั่งแม่น้ำชินดวินท่ามกลางความมืด

 

นักท่องเที่ยวหลายคนพลาดเที่ยวบินไฟลท์ต่างประเทศ เพราะต้องค้างคืนที่โฮมลิน”

 

จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานเทศกาลปีใหม่ จาก 10 คนเมื่อปีที่แล้วเพิ่มขึ้นมากกว่า 35 คนในปีนี้  เมื่อ  7 ปีที่แล้วเคยมีนักท่องเที่ยวมาร่วมงานนับร้อย แต่ก็ลดลงไปเรื่อย

 

ครั้งล่าสุดที่ผมมาที่นี่ในปี 2009 ผมพบว่าชาวนากาไม่ได้สนุกกับเทศกาลอีกแล้ว พวกเขาเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางทุกๆ ปี ” ช่างภาพคนหนึ่ง  บอก ในปีนั้นพวกเขาถูกบังคับให้ยืนกลางแดดเปรี้ยงๆ เกือบสองชั่วโมงในพิธีเปิดห้องสมุดของเมือง นอกจากนี้ยังถูกบังคับให้ปลูกต้นสบู่ดำในพิธีที่จัดขึ้นโดย USDA ด้วย”

 

ทุกๆ ปี ชาวนากาทั้งหญิงชายจากหมู่บ้านไกลๆ ต้องแบกเสบียงอาหารแห้งไว้บนหลัง เดินข้ามเขาลูกแล้วลูกเล่าเพื่อเดินทางมายังสถานที่จัดงานปีใหม่ ที่ตั้งอยู่ระหว่างเมืองลาเชและเมืองลาเฮ บางคนต้องใช้เวลาเดินทางกว่า 4 ถึง 5 วัน

 

พวกเขาต้องพักอยู่ในบ้านหลายหลังและต้องทำอาหารเอง ขณะที่รอเพื่อจะร่วมงานเทศกาลของตนเอง เทศกาลนี้เป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวที่สำคัญเทศกาลหนึ่ง แต่ชนเผ่าเหล่านี้กลับไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากทางการเลย” ชาวบ้านในพื้นที่คนหนึ่งบอก.

 

แปลจาก  Naga Ethnic Tribe Festival Dances with Disappointment

โดย  ZIN MIN MAUNG จาก THEIRRAWADDY10 กพ 55

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น