วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

ประชาชนเป็นจำนวนมากแห่เข้าร่วมเทศกาลหนังในย่างกุ้ง



มีประชาชนกว่า 7 พันคนเข้าร่วมชมเทศกาลหนัง “The Art of Freedom film festival” ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงย่างกุ้งเมื่อวันที่ 1 – 3 มกราคมที่ผ่านมา โดยเทศกาลหนังครั้งนี้ มีนางอองซาน ซูจี และซาร์กานาร์ รวมไปถึงผู้กำกับชาวพม่าคนอื่นๆร่วมจัดงานและให้การสนับสนุนหลัก

 



ทั้งนี้ มีหนังจำนวน 54 ที่ผ่านเข้ารอบตัดสิน จากทั้งหมด 188 เรื่องที่ส่งเข้าประกวด “ผมเชื่อว่า หนังทั้งหมดได้บอกเล่าถึงเสรีภาพผ่านทางผลงานศิลปะและเทคโนโลยีที่ผู้ทำหนังใช้” มิน ติน โก โก จี หนึ่งในผู้กำกับชาวพม่าและเป็นคณะกรรมการตัดสินในครั้งนี้กล่าว

 

ขณะที่หนังที่เข้าฉายในเทศกาลครั้งนี้ ไม่ได้ถูกเซ็นเซอร์จากทางการพม่าเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งหนังบางส่วนที่เข้าฉายในเทศกาลครั้งนี้ มีเนื้อหาโจมตีรัฐบาลทหารพม่าชุดเก่า ขณะที่บางคนกล่าวว่า อุตสาหกรรมหนังพม่าอาจกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง หากเสรีภาพกลับคืนสู่พม่า

 

“แสดงให้เห็นชัดแล้วว่า ประชาชนในพม่าไม่ยอมรับการเซ็นเซอร์และเหตุผลที่จะนำไปสู่การเซ็นเซอร์ ” หนึ่งในผู้กำกับที่ส่งหนังเข้าประกวดกล่าว

ทั้งนี้ หนังเรื่อง “Rope” โดยมิน ไต้ก คว้ารางวัลหนังสั้นยอดเยี่ยมไปครอง ส่วนหนังเรื่อง “Freedom and Unity” กำกับโดย ซอ โบ โบ ฮิง คว้ารางวัลหนังแอนิเมชันยอดเยี่ยม ส่วนหนังที่ได้รับรางวัลจากการโหวตจากผู้ชมมากที่สุดคือหนังเรื่อง “Cut this Scene” นอกจากนี้ยังมีรางวัลสารคดียอดเยี่ยม ซึ่งตกเป็นของสารคดีเรื่อง “Click in Fear” โดยจายจ่อข่าย ซึ่งเล่าถึงเรื่องราวช่างภาพชาวกะเหรี่ยงคนหนึ่งที่เขาได้บันทึกภาพเหตุการณ์ประท้วงใหญ่เมื่อปี 2550 มีรายงานว่า หนัง 3 เรื่องที่ชนะการประกวดจะถูกนำไปแข่งขันในเทศกาลหนังนานาชาติต่อไป

 

ขณะที่หนึ่งในผู้ส่งหนังเข้าประกวด จายจ่อข่าย ผู้กำกับชาวไทใหญ่กล่าวว่า เขาไม่ได้คาดหวังกับรางวัลมาก่อน การส่งหนังเข้าประกวดครั้งนี้เพียงหวังให้ประชาชนได้เห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในพม่า โดยยังกล่าวว่า หนังของเขานั้นมอบใหักับคนที่รักความยุติธรรมและอิสรภาพ

 

ด้านซาร์กานาร์กล่าวถึงงานที่จัดขึ้นว่า “นี่เป็นการแสดงออกอย่างเสรีภาพ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของทิศทางที่ถูกต้อง และเราไม่กลัว เราไม่เคยกลัว”เขากล่าว อย่างไรก็ตาม ซาร์กานาร์กล่าวบน Facebook ของเขาว่า รู้สึกผิดหวังกับจำนวนตัวเลขนักโทษการเมืองที่ได้รับการปล่อยตัว

 

“ตอนแรกผมคาดหวังว่า ผมจะฉลองเทศกาลหนังครั้งนี้พร้อมกับเพื่อนร่วมงานที่ได้รับการปล่อยตัวจากคุก ตอนนี้ผมอยากเปลี่ยนชื่องานครั้งนี้เป็น เทศกาลแห่งการถูกจองจำ ”เขากล่าว อย่างไรก็ตาม ศิลปินเป็นจำนวนมากต่างให้กำลังใจกับผู้จัดงานและหวังให้มีการจัดเทศกาลหนังเช่นนี้เกิดขึ้นอีกในครั้งต่อๆไป

แปลแลเรียบเรียบจาก Mizzima/ Irrawaddy/www.myanmarcelebrity.com 6 มกราคม 55

 

 

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น