วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555

ตัวแทน KNU เยือนเมืองผาอันเพ่ือเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลพม่า หลังรบกันมา 64 ปี



ตัวแทนของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (The Karen National Union -KNU) หรือเคเอ็นยู เดินทางไปยังเมืองผาอัน รัฐกะเหรี่ยง ซึ่งอยู่ในเขตควบคุมของรัฐบาลพม่า เพื่อเดินทางไปเจรจาสันติภาพกับตัวแทนรัฐบาลพม่าจากกรุงเนปีดอว์ หลังทั้งสองฝ่ายรบกันเป็นเวลา 64 ปี



นับเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ที่ตัวแทนจากเคเอ็นยูเดินทางไปในพื้นที่ควบคุมของรัฐบาลพม่า ก่อนหน้านี้ในปี 2004 นายพลโบเมี้ยะ อดีตผู้นำเคเอ็นยูเคยเดินทางไปกรุงย่างกุ้งเพื่อเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลพม่า โดยขณะนั้น มีพลเอกขิ่นยุ้นต์เป็นผู้ร่วมเจรจาจากฝ่ายรัฐบาล แต่ต่อมาการเจรจาก็ล้มเหลว

 

ขณะที่การเจรจาสันติภาพรอบใหม่ที่จะเกิดขึ้น จะเป็นการพบการระหว่างนายอองมิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงขนส่งทางรถไฟพม่าและนายพลมูตู เซ โพ เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของเคเอ็นยู รวมไปถึงคณะกรรมการกลางของเคเอ็นยูอีกหลายคนและตัวแทนจาก 7 กองพลของเคเอ็นยู ยกเว้นกองพลที่ 5 จะร่วมไปเจรจาในครั้งนี้ด้วย

 

“เราจะเน้นในเรื่องการทำสัญญาหยุดยิงที่ยั่งยืน และเงื่อนไขที่ทั้งสองฝ่ายควรที่จะเคารพและเชื่อฟัง” เดวิด ทะคะพอกล่าว โดยยังกล่าวเพิ่มเติมว่า จะมีการหารือในประเด็นเรื่องการบังคับใช้แรงงาน การกดขี่และละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อพลเรือนในรัฐกะเหรี่ยงด้วย

 

"คนกะเหรี่ยงได้ต่อสู้มาเป็นเวลามากกว่า 60 ปี คนกะเหรี่ยงทั่วโลกต่างกังวลการที่เราเจรจากับรัฐบาลพม่าในครั้งนี้ แต่เราอยากจะบอกว่า สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว หากรัฐบาลพม่าต้องการที่จะสร้างสันติภาพจริงๆ ก็ถึงเวลาที่จะต้องทำข้อตกลงกัน นั่นก็เพื่อผลประโยชน์ของคนกะเหรี่ยง ถึงแม้เราจะไม่ทำข้อตกลงกับรัฐบาลในตอนนี้ แต่เราก็ยังหวังว่า วันหนึ่งในอนาคตเราจะทำข้อตกลงกับรัฐบาลพม่า” เดวิด ทะคะพอกล่าว

 

ด้านเจ้าหน้าที่ทหารจากเคเอ็นแอลเอ (Karen National Liberation Army- กองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง)กองกำลังทหารภายใต้เคเอ็นยูเปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจากเคเอ็นยูว่าให้ยุติสู้รบและโจมตีทหารพม่าตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา “เราทั้งหมดต่างเห็นด้วยที่จะให้เคเอ็นยูพูดคุยเจรจากับรัฐบาลพม่า เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาทางการเมือง เพราะว่าตลอด 60 กว่าปีที่ผ่านมาของการสู้รบระหว่างทหารพม่าและกะเหรี่ยง ไม่มีการพัฒนาทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ สังคม การศึกษาและด้านศาสนาในชุมชนท้องถิ่นของเรา และผลของการสู้รบยาวนานกว่า 60 ปี ยังทำให้ ประชาชนชาวกะเหรี่ยงของเราต้องทนทุกข์ทรมานมากมายจากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน”

แปลและเรียบเรียงจาก Irrawaddy 10 มกราคม 55

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น